นายกฯ เป็น ปธ.มอบบ้านใหม่ชุมชนบึงบางซื่อ ขอบ้านเมืองสงบอย่าขัดแย้ง แค่โควิดก็แรงพอแล้ว ย้ำต้องไม่ละเมิดสิทธิทำให้คนอื่นวุ่นวาย ยึดสันติ แจงมีอำนาจไว้เพื่อบริหาร อย่ามองทุกอย่างแย่-เลวไปหมด ชาวบ้านแห่จับตาทะเบียนรถนายกฯ
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บึงบางซื่อ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบ “บ้านใหม่” ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ตามโครงการสานพลังประชารัฐ ณ พื้นที่พัฒนาบึงบางซื่อ เขตจตุจักร กทม. โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมงาน เมื่อมาถึงนายกฯชมนิทรรศการความคืบหน้าโครงการหลังจากนายกฯ ได้มาเปิดเมื่อปี 61 จากนั้นนายกฯ เป็นประธานมอบทะเบียนบ้านใหม่ให้ชาวชุมชนบึงบางซื่อ 60 หลังแรก จากทั้งหมด 197 หลัง ตามโครงการสานพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เช่น บริษัท SCG มอบที่ดินสร้างบ้านมูลค่า 42 ล้านบาท สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สนับสนุนสินเชื่อและเงินอุดหนุน 57 ล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่ง 200 ล้านบาท เพื่อสร้างสวนสาธารณะ-ทางเดินรอบบึงเนื้อที่ 50 ไร่ให้เป็นปอดใหม่ของ กทม.การรถไฟฯ ให้ชุมชนใช้เส้นทางเข้าออก
จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นรัฐบาลมา 2 สมัยแล้ว ดูแลทุกคน ทุกฝ่าย ทุกระดับ ทุกอาชีพ ซึ่งอาจจะมากบ้าง น้อยบ้าง ต้องใช้เวลาบ้าง ก็ต้องค่อยๆ เดิน และคิดว่าวางฐานรากไว้ ขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รัฐบาลพยายามทำให้ทุกคนมีความสุข โดยรัฐบาลให้ความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม เพราะถ้าตราบใดถ้าเราอยู่แบบเดิมๆ ทุกคนก็ไม่มีความสุข ดังนั้นทุกคนจะต้องไม่สร้างภาระซึ่งกันและกัน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาซึ่งรัฐบาลของตนทั้ง 2 รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำทุกอย่างเพื่อประชาชนเราจึงต้องร่วมมือกันตั้งแต่วันนี้ซึ่งที่ผ่านมาก็ดีมากขึ้น หลายอย่างไม่สามารถแก้ปัญหาได้จนต้องมาถึงรัฐบาลนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ได้มาบ้างแล้วหลายคนอาจจะเข้าใจว่าตัวเองจะยังไม่ได้อะไรเลยต้องเข้าใจว่าจะต้องทยอยตามลำดับความยากลำบาก ความเร่งด่วน และงบประมาณที่มี
นายกฯ กล่าวว่า จะบอกว่าทุกโครงการไม่มีประโยชน์ไม่ได้ ถ้าจะรอโครงการได้พร้อมกันทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ เราต้องเลือกคนที่พร้อมก่อน ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น ไม่มีอะไรที่จะยกเลิกให้หมดแล้วทำในทีเดียวได้ ก็จะเสียเวลาเหมือนเดิมหรือยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง ถ้าเราร่วมมือกันได้เร็วทุกอย่างก็จะทำได้เร็วและมีโอกาสหางบประมาณมาเติมได้ แต่ถ้าร่วมมือกันไม่ได้แม้จะมีงบประมาณก็ทำอะไรไม่ได้ และจะเรียกร้องเพียงอย่างเดียวโดยไม่รู้เรื่องเลยมันไม่ได้ จึงขอให้ทุกคนต้องเข้าสู่กฎระเบียบและไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลจะล้วงความลับ
“จึงขอให้ระมัดระวังไอ้ผู้หลอกลวงมากกว่า รัฐบาลหลอกลวงใครไม่ได้ หรือจะพูดบิดเบือนไม่ได้ ไม่เหมือนกับบางคนที่เขาพูด เพราะเขาคุ้มครองตัวเขาได้ จึงใช้ทุกโอกาสที่มี แต่วันนี้ผมมาพบกับท่านตัวเป็นๆ พูดจากตัวจริงจากการพูดจากโทรทัศน์เป็นคนละประเภทกัน วันนี้ถือว่าได้มาพบกับผู้ทรงเกียรติ เพราะประชาชนคือผู้ทรงเกียรติของผมแต่พวกท่านก็เลือกผู้ทรงเกียรติเข้าไป ก็ดูๆ แล้วกัน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ทุกช่วงเวลามีการเปลี่ยนแปลงการจะเปลี่ยนอะไรแบบรื้อทีเดียว ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่าต้องขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ ขออย่างเดียวให้บ้านเมืองสงบสุข หลายอย่างก็จะเดินหน้าต่อไปได้เศรษฐกิจก็จะค่อยๆดีขึ้นวันนี้วันนี้เศรษฐกิจไม่ได้แย่ไปทั้งหมดหรือเลวไปทั้งหมด ไม่ใช่อะไรก็เลวอะไรก็แย่ แล้วจะทำให้คนมีกำลังใจได้อย่างไร ข้อเท็จจริงทุกคนก็รู้อยู่ว่าสาเหตุหลักเพราะโควิดเข้ามา ถ้าไม่มีก็อาจจะทำอะไรได้เร็วขึ้นกว่านี้ หลายอย่างตกไปโดยเฉพาะรายได้ของประเทศ ขณะที่ทุกคนมีแต่ความต้องการ แล้วรัฐบาลจะเอาเงินจากที่ไหนวันนี้พยายามกู้เงินให้น้อยที่สุด เพราะถ้ากู้มากก็เป็นภาระแล้วทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมายทุกประการ
“ผมขอฝากใจไว้กับทุกคน ต่างคนต่างช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ฝากไปถึงประชาชนที่อื่นด้วย จะทำทุกอย่างให้กับทุกคน วันนี้ขอให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี ถ้ามัวแต่ขัดแย้งก็จะทำให้บ้านเมืองมีปัญหา โควิด-19 แรงพออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะหยุดหมด เดินหน้าต่อไม่ได้ เราต้องเริ่มต้นจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต รัฐบาลผมก็เอาอดีตมาแก้ไข ต้องทำวันนี้เพื่อวันหน้า” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สถานการณ์โควิดเราต้องดูแล ต้องใส่หน้ากากอนามัย การ์ดอย่าตก เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่อย่างนั้นปัญหาก็จะรุมเร้าเข้ามา รัฐบาลก็ต้องมาคอยตอบทุกเรื่อง บางทีมันก็ไม่เป็นเรื่อง แล้วก็พยายามให้มันเป็นเรื่อง ที่ไม่ควรจะเป็นเรื่องก็ทำให้มันเป็นเรื่อง นี่คือปัญหาที่เราเจออยู่ในขณะนี้ ขออย่างเดียวขอให้ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองสงบสุข มีความรักความสามัคคี ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ไม่ละเมิดทำให้คนอื่นวุ่นวาย ใครจะทำอะไรต้นถือว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่ตนก็หวังจากประชาชนจะช่วยทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยด้วยวิธีการอย่างสันติ ก็คือพูดจากัน ผมไม่ได้มีอะไรกับใครทั้งสิ้น ไม่ได้ต้องการรักษาตำแหน่ง ไม่ได้ต้องการอำนาจ หรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ผมต้องการอำนาจเพื่อบริหาร ทำให้ประชาชน จึงต้องมีกฎหมายตัวนี้ และผมต้องเป็นคนรับผิดชอบอยู่ดี ผมทำอะไรผิดไม่ได้” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องดูแลคนทุกกลุ่มถึงต้องเป็นรัฐบาล ถ้าไม่มีรัฐบาลแล้วเอาคนเก่งสักคนมาบริหาร แต่ตนบริหาร ด้วยระบบการบริหารราชการแผ่นดิน มันไม่ดีก็แก้ไขก็เปลี่ยนแปลง แต่ทั้งหมดต้องใช้กฎหมาย ใช้กระบวนการของรัฐสภา นั่นคือระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีเปิดถนนพลาสติกรีไซเคิล และรับฟังข้อมูลการนำขยะพลาสติกหมุนเวียนกลับมาเป็นส่วนประกอบในการทำถนน ณ บริเวณถนนพลาสติกรีไซเคิลในชุมชนบึงบางซื่อ พร้อมเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง และแปลงผักเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดกระจกรถโบกมือทักทายกับชาวบ้าน พร้อมระบุว่าขอให้โชคดี ชาวชุมชนจึงตะโกนถามว่าเลขทะเบียนรถยนต์ 429 ใช่มั้ยงวดนี้ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับหัวเราะ ก่อนจะกล่าวเตือนว่า “อย่าไปซื้อเยอะนะ”