เลขาฯ กกต.ยันพร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น อบรมให้ความรู้วิทยากรจังหวัด ย้ำข้อบกพร่องเลือกตั้ง ส.ส.ต้องไม่เกิดซ้ำ เผยหากรัฐบาลประเดิมสั่งเลือก อบจ. ทำได้พร้อมกันทั่วประเทศ
วันนี้ (9 ก.ย.) พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการจัดอบรมวิทยากรจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 โดยระบุว่า การจัดและตั้งครั้งนี้ เพื่อให้วิทยากรจังหวัดมีความรู้ความเข้าใจกฎหมาย เพื่อที่จะได้นำไปอบรมวิทยากรระดับอำเภอเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นต่อไป ที่ผ่านมาตนไปประชุมที่รัฐสภาก็มักจะถูกถามว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อใด งบประมาณพร้อมหรือไม่ ก็ยืนยันไปว่า กกต.พร้อมโดยกฎหมายให้ กกต.ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลควบคุม ให้การจัดการเลือกตั้งของท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม สิ่งที่กกตต้องกำกับดูแลในการเลือกตั้งท้องถิ่นถือว่ามีความสำคัญ เช่น ในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง กกต.มีมติให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดพิมพ์ เมื่อรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้ง เลขาฯ กกต.ก็จะมีหน้าที่ในการไปจัดหาโรงพิมพ์เพื่อเสนอ กกต.พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการไปชี้แจงต่อวุฒิสภา หรือกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร อยากจะฝากถึงวิทยากรที่มาเข้าอบรมในครั้งนี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมาอย่างการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ เรามีการยกหีบไปให้คนที่มีไข้สูง ได้หย่อนบัตรเลือกตั้ง แต่ก็ถูกร้องเรียนว่าเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้อง ซึ่งก็อยากให้ไปพิจารณาว่าจะวางหีบบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างไรให้โปร่งใส ไม่ถูกร้องเรียน เพราะจะต้องมี 2 ใบ หรือกรณีที่มีการระบุว่า คนที่ทำหน้าที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคือหัวคะแนนที่มาคอยนับว่าคนนั้นคนนี้มาใช้สิทธิแล้วหรือยัง การคัดเลือกคนมาเป็นกรรมการประจำหน่วยทำอย่างไรให้ไม่เป็นคนของฝ่ายการเมือง รวมถึงเรื่องของบัตรเขย่ง การจัดการกับหีบบัตรเลือกตั้งหลังการเสร็จสิ้นการนับคะแนน การติดประกาศผลการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา กกต.ถูกโลกโซเชียลฯ ถล่มอย่างหนักถึงขนาดจะล้มการเลือกตั้ง ทั้งที่ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของการจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศแล้วเล็กน้อยมาก แต่ข้อผิดพลาดบกพร่องเหล่านี้ไม่อยากให้เกิดอีกหรือถ้าเกิดก็ควรที่จะน้อยที่สุด
“ประชาชนมีการสอบถามเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นจำนวนมากว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งเมื่อใด หลังรัฐบาลการประกาศแล้วกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีการเลือกตั้งภายในเมื่อใด แต่ กกต.จะพยายามจัดให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว”
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมโดยยืนยันว่า กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น การอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในระเบียบ ข้อกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเลือกตั้งจะได้พร้อมในทันที โดยการเตรียมความพร้อมได้มีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยอยู่ตลอดเวลา และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
เมื่อถามว่ามีการส่งสัญญาณจากทางรัฐบาลเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ทราบจากคำสัมภาษณ์และข่าวต่างๆ เห็นท่านประกาศว่าภายในปีนี้จะมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างน้อย 1 รูปแบบซึ่งเราก็ต้องเตรียมความพร้อม โดย อบจ.เราได้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และส่งให้เลขาฯ ครม.เพื่อไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา และถ้าหาก รัฐบาลให้มีการเลือกตั้งอบจ.ก็สามารถเลือกพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อถามว่าถ้ามีการกำหนดให้มีการเลือกตั้ง กกต.จะประกาศกำหนดได้เร็วสุดภายในกี่วัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ถ้ากำหนดทั่วประเทศก็ต้องพร้อม การประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิเลือกตั้ง การรณรงค์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้เวลา เนื่องจากไม่ได้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาเป็นเวลานาน ผู้สมัครต้องไปหาเสียงกับประชาชน ดังนั้นต้องมีระยะเวลาให้ผู้สมัครพอสมควร
ส่วนที่อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิดจะมีปัญหางบประมาณหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยบอกว่าได้มีการเตรียมงบประมาณไว้แล้ว ไม่ทราบว่ามีปัญหาติดขัดอะไรหรือไม่ แต่โดยงบประมาณเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งต้องใช้งบประมาณพอสมควร ไม่เหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.ที่งบประมาณจะอยู่ที่ กกต.
ทั้งนี้ ในการอบรมวิทยากรจังหวัดครั้งนี้ นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ และรักษาการ ผอ.พตส.ยังบรรยายตอนหนึ่งว่า กล่าวว่า คนที่จะเป็น ผอ.เลือกตั้งท้องถิ่นก็คือปลัดท้องถิ่นแต่เขาก็ห่างเหินจัดการเลือกตั้งมา 8-9 ปี และส่วนใหญ่กำลังเกษียณที่เหลืออยู่ก็จะเป็นมือใหม่ ดังนั้น ต้องหาคนคุ้นเคยกับการทำงานเลือกตั้ง อบจ. นอกจากนี้ การเลือกตั้งในสถานการณ์โควิด-19 หากยึดการจัดเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง หรือลำปางโมเดล มาใช้ในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น ควรจะต้องตั้งงบประมาณเพิ่มจากเดิม 30% เพราะหน่วยเลือกตั้งแบบนิวนอร์มัลจะต้องมีเครื่องวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ รวมถึงลักษณะการจัดหน่วยที่แตกต่างจากเดิมซึ่งทำให้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น