ประชุม กกต.ออกมติวันอาทิตย์ 9 ส.ค. เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ เปิดรับสมัคร 16 ก.ค. - 20 ก.ค. เพิ่มมาตรการเข้มป้องกันโควิด
วันนี้ (10 ก.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการประชุมหลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ แทนตำแหน่งที่ว่าง มีผลบังคับใช้ โดยที่ประชุม กกต.มีมติกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. เป็นวันเลือกตั้งส.ส. และเปิดรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 16 ก.ค. - 20 ก.ค. ณ.สถานที่ที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 กำหนด ซึ่งพรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง จะต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น และโดยผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับการสรรหามาจากสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้ง ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองต้องให้การรับรองด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งผู้สมัครสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายต้องคำนวณจากค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันเลือกตั้ง และหลังวันเลือกตั้งผู้สมัครจะต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน 90 วัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนการหาเสียงเลือกตั้งสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 68 (2)
ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.แจ้งถึงแนวทางการจัดการเลือกตั้งว่าในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ โดยกำหนดพื้นที่ต่อคน การเว้นระยะห่างระยะบุคคล การกำหนดจุตรวจคัดกรองแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ทั้งในสถานที่รับสมัคร หน่วยเลือกตั้ง สถานที่อบรมเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วย การรับวัสดุมอบอุปกรณ์ การออกเสียง การนับคะแนน และการส่งหีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการแทนตำแหน่งที่ว่างดังกล่าวเกิดจากการที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการที่คนสนิทของนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.เขต 5 สุมทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ นำพวงหรีดและเงินใส่ซองจำนวน 1 พันบาทไปช่วยทำบุญงานศพในช่วงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายกรุงศรีวิไล ทำให้การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างที่จะมีขึ้นนี้นายกรุงศรีวิไลยังสามารถที่จะลงสมัครใหม่ได้
