xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดกรองเงินกู้แจงเยียวยาโควิด-19 ทุกกลุ่มแล้ว 4 แสนล้าน 69 โครงการใช้เงินกู้ เฟสแรก 4.5 หมื่นล. จ่อเฟสสอง 3 หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บอร์ดกรองเงินกู้แจงตัวเลขเยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม จากภัยโควิด-19 แล้ว 30.51 ล้านราย วงเงินรวม 414,734.95 ล้าน ย้ำแผนงานใช้จ่ายเงินกู้ 4 แสนล้าน “เฟสแรก” จ่ายแล้ว 45,091.8584 ล้านบาท จาก 69 โครงการ จ้างงาน 1.1 แสนราย จ่อพิจารณา “เฟสสอง” จากมติ ศบศ.อีกราว 2-3 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับแผนพิจารณาเงินกู้ เฟสต่อไปเป็นการทยอยอนุมัติงบประมาณเป็นช่วง คราวละ 1-2 แสนล้านบาท แทนการปล่อยวงเงินทั้งหมดในคราวเดียวกัน

วันนี้ (9 ก.ย.) มีรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ พิจารณาโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเพื่อสร้างงาน (แผนงานที่ 3.2) รายงานความคืบหน้า “เฟสแรก” โครงการการใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก. ในส่วนของแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท จากภัยโควิด-19

ครม.อนุมัติเงิน “เฟสแรก” โครงการขนาดใหญ่ ไปแล้ว 45,091.8584 ล้านบาท จาก 69 โครงการ จากที่หน่วยงานเสนอเข้ามา 45,174 โครงการ วงเงิน 641,973 ล้านบาท ขณะที่ คณะกรรมการได้กลั่นกรอง “รอบแรก” 186 โครงการ จากวงเงิน 92,400 ล้านบาท

ประกอบด้วย แผนงานสร้างความเข้มแข็ง 6 โครงการ วงเงิน 19,486 ล้านบาทเศษ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” วงเงินกู้ 4,787.916 ล้านบาท กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้หารือกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อจ้างงานฝึกงาน “ผู้ต้องขัง” จำนวน 1 ปี ที่ได้ลดโทษคืนสู่สังคม เข้ารวมโครงการนี้เช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ในส่วนเปราะบางว่างงานกลับไปยังภูมิลำเนา ไม่ต้องเป็นลูกจ้างตลอดชีวิต เป็นต้น

แผนงานสร้างความเจริญเติบโต 61 โครงการ 3,205 ล้านบาทเศษ แผนงานกระต้นอุปโภคบริโภคและกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ 22,400 ล้านบาท และแผนงานของส่วนราชการ 5 โครงการ 44,500 ล้านบาท ข้อมูลของสภาพัฒน์ระบุว่า มีการจ้างงานจากทุกแผนงาน รวมแล้ว 112,907 คน

“ขณะที่เงินเยียวยาทุกโครงการจากภัยโควิด-19 ตั้งแต่เดือน ก.ค. เบิกจ่ายประชาชนทุกกลุ่ม ไปแล้ว 30.51 ล้านราย จากที่ลงทะเบียน 45 ล้านราย วงเงินรวม 414,734.95 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินงบประมาณ 70,000 ล้านบาท (จ่าย 5 พันบาท/3 เดือน) และเงินกู้ 344,734.95 ล้านบาท”

ขณะที่โครงการจากจังหวัด “รอบแรก” จ่ายแล้ว 157 โครงการ วงเงิน 884.6250 ล้านบาท และ “รอบสอง” 53 โครงการ วงเงิน 142.3866 ล้านบาท

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ บอกว่า ในบ่ายวันนี้ทางคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ จะพิจารณาโครงการเพิ่มเติมวงเงินราว 2-3 หมื่นล้านบาท ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า

ขณะที่โครงการในเฟส 2 ส่วนหนึ่งจะเป็นโครงการที่สืบเนื่องจาก “มาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.)” ที่จะมีการพิจารณาโครงการที่เป็นแพกเกจออกมา เน้นไปที่การจ้างงาน โดยเฉพาะกับนิสิต นักศึกษาที่จบการศึกษากว่า 2.6 แสนตำแหน่ง รวมถึงจะมีการจัดงาน Job Expo จากงบประมาณของกระทรวงแรงงาน ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง

เตรียมกระตุ้นการใช้จ่ายไปยังกลุ่มเป้าหมาย พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” รวมถึงส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และเตรียมการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศด้วย

วงเงินที่ใช้ทั้งหมดในเฟสที่ 2 และเฟสต่อๆ ไปยังคงหลักการเดิมคือ ทยอยอนุมัติงบประมาณเป็นช่วง อาจเป็นคราวละ 1-2 แสนล้านบาท เพราะกรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท จะไม่ใช้วงเงินทั้งหมดในคราวเดียวกัน เนื่องจากต้องการให้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ควบคู่กันไป หากเกิดการระบาดรอบสองก็ยังมีวงเงินที่ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่หากไม่มีการแพร่ระบาดสามารถนำวงเงินไปใช้ในแพกเกจอื่นๆ ต่อไป

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า การพิจารณา เน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ที่เตรียมจ้างนักศึกษาตำบลละ 20 คนใน 3,000 ตำบล อัตราจ้าง 6 หมื่นตำแหน่ง และโครงการที่เกี่ยวข้องกับเกษตรแปลงใหญ่ เน้นช่วยปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตภาคการเกษตร และเครื่องจักรต่างๆ รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้าน ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ชุมชนและการท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น คาดว่าจะใช้วงเงินทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

สำหรับโครงการในเฟสแรกภายใต้กรอบวงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท รัฐบาลได้อนุมัติกรอบงบประมาณไปแล้ว 9.24 หมื่นล้านบาท คาดว่าส่งผลให้เกิดการจ้างงาน 4 แสนตำแหน่ง ซึ่งมีโครงการที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม.แล้วในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิดการจ้างงานแสนกว่าตำแหน่ง คงเหลือวงเงินประมาณ 4.73 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานอีกกว่า 3 แสนตำแหน่ง

“ส่วนแพกเกจ 2 ในส่วนคนวัยทำงาน เช่น พื้นที่อีอีซีในอุตสาหกรรมรถยนต์ จะต้องผลักดันอัปเกรด อัปสกิล รีสกิล คนกลุ่มปฏิบัติการ หรือซูเปอร์ไวเซอร์ เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 เป็นต้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น