นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าการใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก. ในส่วนของแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 หมื่นล้านบาท ว่า วันนี้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการจะพิจารณาโครงการเพิ่มเติมวงเงินราว 2-3 หมื่นล้านบาท ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ จะเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ที่เตรียมจ้างนักศึกษาตำบลละ 20 คนใน 3,000 ตำบล อัตราจ้าง 6 หมื่นตำแหน่ง และโครงการที่เกี่ยวข้องกับเกษตรแปลงใหญ่ เน้นช่วยปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตภาคการเกษตร และเครื่องจักรต่างๆ รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้าน ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ชุมชนและการท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น คาดว่าจะใช้วงเงินทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับโครงการในเฟสแรกภายใต้กรอบวงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท รัฐบาลได้อนุมัติกรอบงบประมาณไปแล้ว 9.24 หมื่นล้านบาท คาดว่าส่งผลให้เกิดการจ้างงาน 4 แสนตำแหน่ง ซึ่งมีโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิดการจ้างงานแสนกว่าตำแหน่ง คงเหลือวงเงินประมาณ 4.73 หมื่นล้านบาทที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานอีกกว่า 3 แสนตำแหน่ง
ขณะที่โครงการในเฟส 2 ส่วนหนึ่งจะเป็นโครงการที่สืบเนื่องจากมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ที่จะมีการพิจารณาโครงการที่เป็นแพ็กเกจออกมา เน้นไปที่การจ้างงาน โดยเฉพาะกับนิสิต นักศึกษาที่จบการศึกษากว่า 2.6 แสนตำแหน่ง รวมถึงจะมีการจัดงาน Job Expo ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง รวมทั้งเตรียมกระตุ้นการใช้จ่ายไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ผ่านโครงการ "คนละครึ่ง" รวมถึงส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และเตรียมการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศด้วย
นายทศพร กล่าวว่า วงเงินที่ใช้ทั้งหมดในเฟสที่ 2 และเฟสต่อๆ ไปยังคงหลักการเดิมคือ ทยอยอนุมัติงบประมาณเป็นช่วง อาจเป็นคราวละ 1-2 แสนล้านบาท เพราะกรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท จะไม่ใช้วงเงินทั้งหมดในคราวเดียวกัน เนื่องจากต้องการให้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ควบคู่กันไป หากเกิดการระบาดรอบ 2 ก็ยังมีวงเงินที่ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่หากไม่มีการแพร่ระบาด ก็สามารถนำวงเงินไปใช้ในแพ็กเกจอื่นๆ ต่อไป