xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์เอสที โรโบติกส์” สตาร์ทอัปหุ่นยนต์แขนกลเพื่ออุตสาหกรรมฝีมือคนไทย เตรียมพร้อมบุกตลาดอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





สตาร์ทอัป หุ่นยนต์แขนกลเพื่องานอุตสาหกรรม ถูกพัฒนาโดยเจ้าของยังหนุ่มในวัยเพียง 27 ปี ที่มีแนวคิดต้องการที่จะให้คนไทย ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ และผลงานที่มาจากฝีมือของคนไทยเอง พร้อมทั้งตั้งเป้าไว้ว่า “อาร์เอสที โรโบติกส์” จะต้องเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในอาเซียน


นายอินทัช อนุพรรณสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอสที โรโบติกส์ จำกัด (RST Robotic) เล่าว่า เดิมครอบครัวเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบระบบออโตเมชัน โดยเริ่มจากการเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติ ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ในการให้บริการเครื่องจักรกลเกษตร จึงเข้าใจกระบวนการและอุปสรรคที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ

ทั้งนี้ ในปี 2553 เริ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ หุ่นยนต์แขนกลอุตสาหกรรม สัญชาติไทย เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขาดแรงงานทักษะฝีมือ ซึ่งไม่สามารถควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และไม่สามารถ เพิ่มผลผลิตตามต้องการได้




“ที่ผมเกิดไอเดีย Robot ขึ้นมาส่วนหนึ่งก็มาจาก Passion เราสร้าง Robot เพราะต้องการที่จะมีแบรนด์ที่เป็นของคนไทยเอง และหลังจากนั้น Supply Chain มันจะเกิดจากที่เห็นกันว่าประเทศไทยเราผลิตรถยนต์ติดอันดับโลกส่งออกให้ทั้งญี่ปุ่นและยุโรปเยอะมาก ประเทศเราเคยเป็นเบอร์ 1 ทางด้านการผลิตฮาร์ดดิส ทั้งนี้ผมเลยมองว่า ถ้ามันมีแบรนด์ไทยขึ้นมาสักแบรนด์ Supply Chain มันจะเกิดแน่นอน เพราะผมมองว่าโรงงานเหล่านี้ศักยภาพเขาถึงอยู่แล้ว”




ทางบริษัทฯ จึงได้เริ่มคิดค้นประดิษฐ์ เครื่องตัดเหล็ก CNC ขึ้นเพื่อใช้ในโรงงานของตนเอง ปัจจุบันได้มีการใช้เครื่องตัดเหล็ก CNC 
จำนวน 2 เครื่อง จากที่เคยใช้เครื่องตัดเหล็กธรรมดาจำนวนกว่า 20 เครื่อง ซึ่งสามารถลดจำนวนคนงานควบคุมเครื่องตัดเหล็ก และลดจำนวนเครื่องตัดเหล็กได้จำนวนมาก ต่อมาได้มีการวิจัยพัฒนา นวัตกรรมหุ่นยนต์แขนกล เพื่อมาช่วยเรื่องงานเชื่อมโลหะอีกด้วย

อีกทั้งประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จาก “อาร์เอสที โรโบติกส์” นั้นมีมาตรฐานเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ ได้คิดค้นนวัตกรรม “หุ่นยนต์แขนกลอุตสาหกรรม” ที่สามารถผลิตและจำหน่ายได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าประมาณ 20-30 % มีราคาที่ถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศ มีการบริการหลังการขาย ที่เหนือกว่าเนื่องด้วยทีมวิศวกรทั้งหมดเป็นทีมงานที่เป็นคนไทย มีการออกแบบโปรแกรมการใช้งานที่ง่ายเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 20-30 ชุดต่อเดือน สามารถขยายกำลังการผลิตซึ่งสามารถทำให้เกิด Supply Chain ได้อีกเป็นจำนวนมาก




“ทีมวิศวกรของบริษัทฯ ได้ออกแบบขึ้นมาโดยองค์ความรู้ Know-how มีทีมวิศวกรเป็นคนออกแบบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่รูปร่างหน้าตาหุ่นยนต์ อุปกรณ์ที่จะต้องเลือกใช้ รวมไปถึง Robot งานนี้จะสามารถรับแรงได้เท่าไหร่ สเปคเท่าไหร่ บริษัทฯ เป็นคนกำหนดทุกอย่าง หลังจากออกแบบเสร็จเรียบร้อย บริษัทฯ จึงประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมา และโดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบที่นำเข้าจะมาจาก จีน ญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยที่เราจะเป็นผู้ประกอบ วางระบบ พร้อมทั้งขายโซลูชั่น ให้กับทางลูกค้า”




นอกจากนี้ยังได้คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นของตนเอง ทำให้งานที่ออกแบบระบบ หรืองานด้าน System Integrator (S.I.) มีความหลากหลายและยืดหยุ่น พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผ่านโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสู่การบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ โครงการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการด้วย Digital Training สู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และยังเกิดการสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับเป้าหมายในอนาคต “อาร์เอสที โรโบติกส์” ณ ตอนนี้บริษัทฯ ยังพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป แต่ในอนาคตยังต้องการที่จะขยายฐานออกไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยการร่วมมือกับ System Integrator (S.I.) ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย เนื่องจากมองว่าการที่บริษัทฯ จะขยายไปอุตสาหกรรมอื่นๆ หากมองในมุมของวิศวกรรมค่อนข้างยากที่จะขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพราะแต่ละอุตสาหกรรมจะมีเอกลักษณ์ การทำงานที่แตกต่างกัน เช่น เครื่องจักร เครื่องมือที่ใช้ เพราะฉะนั้นจึงต้องการที่จะขยายไปอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ปีอย่างแน่นอน พร้อมทั้งส่งออกไปยังอาเซียนอีกด้วย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น