สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงโปรดมีพระบัญชามอบสมเด็จพระวันรัตปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์เป็นประธานเปิดงานเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงประจำปี2563
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ณ หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เฝ้าสมเด็จพระวันรัต ในโอกาสเสด็จเป็นประธานพิธีเปิดงาน “เทศน์มหาชาติ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และประชาชนถวายการต้อนรับ
นายอนุชา กล่าวว่า งานเทศน์มหาชาตินับเป็นกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ และถือว่าเป็นคตินิยมที่เชื่อว่าเป็นการนำความรู้มาหล่อหลอมจิตใจ ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการทำความดี ละกิเลสทั้งหลายในรูปแบบของการเล่านิทานชาดก และสอดแทรกเรื่องราวทางด้านวัฒนธรรม ประเพณีเข้าด้วยกัน การจัดงานเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ มหาเถรสมาคมได้เห็นชอบ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยอาราธนาพระสงฆ์ ผู้ทรงภูมิรู้มีความสามารถในการเทศน์ทำนองหลวง มาเป็นองค์แสดงธรรม ซึ่งมีคณะสงฆ์ กระทรวง กรม สำนักงาน ตลอดถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงสดับพระธรรมเทศนามหาชาติ เวสสันดรชาดก “กัณฑ์มัทรี 90 พระคาถา ในวันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากคณะสงฆ์ หน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเป็นอย่างดีขึ้น นอกจากนั้น ยังได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ให้การสนับสนุนในการจัดตั้งโรงทานอาหาร น้ำดื่มบริการผู้มาร่วมงานตลอดงาน โดยรายได้ที่เกิดจากกุศลจิตศรัทธาในการจัดงานครั้งนี้ จะได้นำเข้ากองทุนบำรุงรักษาพัฒนาพุทธมณฑลต่อไป.