โฆษก กมธ.งบฯ 64 แถลงพิจารณาเสร็จแล้ว 100% ถึงคิวเรียก 8 อนุ กมธ.แจง พร้อมปรับลดงบ กทม. คาดเรื่องเรือดำน้ำอาจพิจารณาวันศุกร์ ปชป.เจรจาขอเลื่อนไปก่อน
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษโรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 แถลงความคืบหน้าในการพิจารณางบประมาณ ว่า ใช้เวลา 33 วัน รวม 275 ชั่วโมง มีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว รวม 20 กระทรวง 5 กลุ่มหน่วยงาน 26 กองทุน และ 14 แผนงานบูรณาการ คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ โดยวันนี้เป็นการพิจารณาของคณะอนุ กมธ.ทั้ง 8 ชุด โดยขณะนี้พิจารณาแล้ว 3 ชุด โดยชุดแรกเป็นการพิจารณาในอนุ กมธ.จังหวัด กลุ่มจังหวัดและแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค 76 จังหวัด งบประมาณทั้งสิ้น 23,413,640,600 บาท มีการปรับลด 304,092,400 บาท คงเหลือ 23,109,548,200 บาท ชุด 2 คณะอนุ กมธ.ด้านการศึกษาได้พิจารณางบประมาณรวม 101 หน่วยงาน งบประมาณทั้งสิ้น 191,834,252,300 บาท ซึ่งมีการปรับลด 2,641,251,300 บาท คงเหลือ 189,193,001,000 บาท และชุด 3 คณะอนุ กมธ.การท้องถิ่นองค์กรณ์บริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง กรุงเทพมหานคร พัทยา และเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้องค์กรปกครองท้องถิ่น เทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นงบประมาณทั้งสิ้น 318,379,653,300 บาท มีการปรับรถ 4,604,019,900 บาท คงเหลือ 313,775,633,400บาท
โฆษก กมธ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีกรรมาธิการขอปรับลดงบประมาณเพิ่มเติมของกรุงเทพมหานคร 2 รายการ จำนวน 192,500,000 บาท ในรายการโครงการสร้างสะพานข้าแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย ติดกับรัฐสภาใหม่ เนื่องจากเป็นโครงการผูกพันที่ขอรับงบประมาณเริ่มต้นในปี 2563 แต่ยังไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้และไม่มีผลเบิกจ่าย ซึ่งมีผลต่อเนื่องให้ต้องปรับลดโครงการผูกพันอีกรายการที่ของบประมาณปี 2564 เช่นกัน
โฆษก กมธ. กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของอนุ กมธ.ด้านการศึกษา ที่มีการตั้งข้อสังเกตของ กมธ.ว่าในแต่ละปีมีเงินนอกงบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและกำกับของรัฐจึงมาขอเงินงบประมาณอีก ซึ่งทางอนุ กมธ.ชี้แจงว่า มหาวิทยาลัยบางแห่งต้องใช้งบประมาณในการสนับสนุนสร้างโรงพยาบาลในสังกัดของมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใช้เงินนอกงบประมาณช่วยเหลือประชาชน จึงต้องของบประมาณเพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ทำการวิจัยและผลิตแพทย์รวมทั้งบุคลากรที่ขาดแคลนในบางสาขา
นายอัครเดช ยังกล่าวถึงการพิจารณาโครงการเรือดำน้ำ 2 ลำจากประเทศจีน มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียนกำลังต่อคิว เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการชุดใหญ่โดยในเบื้องต้น ต้องรอดูว่าคณะอนุ กมธ.จะพิจารณาในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบอาจจะต้องมีประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กองทัพเรือมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม เนื่องจากต้องดูภาพรวมของเศรษฐกิจและความมั่นคงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการพิจารณาเรือดำน้ำในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะโหวตแบบไหน นายอัครเดช กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคจำนวน 7 คน มาเจรจากับกรรมาธิการ ว่า ขอให้เลื่อนออกไปก่อนโดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่จะรับไปประสานกับทางรัฐบาล แต่ยังไม่ทราบผลว่าจะมีการหารือหรือไม่