โฆษก กมธ.งบฯ 64 เผย พิจารณาแล้ว 17 กระทรวง ทร.ยืนกรานจำเป็นต้องจัดซื้อเรือดำน้ำ ผบ.ทบ.เลื่อนแจง กมธ. 19 ส.ค.นี้ โยน ป.ป.ช.สอบตบทรัพย์
วันนี้ (17 ส.ค.) น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ระพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ว่า คณะกรรมาธิการได้ใช้เวลาในการพิจารณามาแล้วทั้งหมด 26 วัน รวม 216 ชั่วโมง จากจำนวนทั้งหมด 237 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 17 กระทรวง 3 กลุ่มหน่วยงาน 19 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 56.3 จากหน่วยงานทั้งสิ้น 20 กระทรวง 9 กลุ่มหน่วยงาน 26 กองทุน 14 แผนบูรณาการ
น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า กล่าวว่า การพิจารณางบประมาณของหน่วยงานในกระทรวงกลาโหมวงเงิน 2.23 แสนล้านบาท จำนวน 6 หน่วยงาน พิจารณาผ่านไปแล้ว 5 หน่วยงาน เหลือเพียงกองทัพบกเนื่องจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ติดภารกิจจึงขอเลื่อนการพิจารณาเป็นวันที่ 19 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการได้สอบถามงบประมาณในส่วนกองทัพเรือ โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ซึ่งกองทัพเรือยืนยันถึงความจำเป็นในการจัดซื้อ เนื่องจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้แต่พม่าก็มีเรือดำน้ำแล้ว อีกทั้งระยะเวลานับตั้งแต่การจัดซื้อเรือดำน้ำตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่ได้เรือดำน้ำ และการฝึกอบรมการใช้จนมีความพร้อมใช้เวลารวมกันถึง 10 ปี จึงจำเป็นต้องเตรียมการไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการยังไม่ได้มีการปรับลดงบประมาณในส่วนกลาโหม ขึ้นอยู่กับอนุกรรมการจะทำความเห็นส่งกลับมาให้คณะใหญ่พิจารณาอีกที
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีอนุกรรมาธิการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณให้หน่วยงาน ว่า อนุกรรมาธิการ ทั้ง 8 ชุด ได้รายงานข้อเท็จจริงมาให้กรรมาธิการ ทราบเรียบร้อยแล้ว แต่กรรมาธิการ เห็นว่า ไม่ควรตรวจสอบกันเอง จึงส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการ ซึ่งประธานสภาส่งต่อไปให้คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ แต่กรรมาธิการกิจการสภา ไม่อยากตรวจสอบ ดังนั้น จึงจะส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้ตรวจสอบเรื่องนี้แทน