เมืองไทย 360 องศา
ก็ถือว่า “ออกอาการ” กันมาเต็มเหนี่ยวกับฝ่ายที่กำลังเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้ว่าจะได้เห็นเงาหลังวูบวาบก็ตาม แต่ในระยะไม่กี่วันนี้มานี้ แม้จะไม่ได้เห็นหน้าจะจะ จังๆ แต่เชื่อว่าหลายคนย่อม “จำหน้าได้” ดีว่าเป็นใครกันบ้าง เพราะหากติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าแลปกใจอะไรเลย ล้วน “ขาประจำ” ที่เคยเคลื่อนไหวในแนวทางดังกล่าวมานานแล้ว เพราะมีบางคนที่กำลังหลบหนีคดีในต่างประเทศที่กำลังยุยงชักใยอยู่ข้างนอกตลอดเวลา
หลายคนกำลังจับตามองว่าการชุมนุมของเด็กๆ เยาวชนที่กำลังเร่าร้อน และที่สำคัญ กำลังถูกชักจูงจากผู้ใหญ่บางคน นักการเมืองบางกลุ่ม บางพรรค หรือแม้กระทั่งบางพรรคที่เอาแม้กระทั่ง “ขอโหน” แตะๆ ไปด้วย โดยที่ไม่ยอม “ลงทุน” ออกแรงด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจยิ่งนัก
ขณะเดียวกัน หากพิจารณาหลังจากที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มการเมืองที่เรียกว่ากลุ่มประชาชนปลดแอก ที่มีบรรดาเด็กๆเยาวชนนักศึกษา นัดกันออกมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่ากำลังเพิ่มความตึงเครียดให้กับสังคมไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะที่ใครก็มองออกว่าเป็นการ “ยุยงเด็กให้ออกหน้า” โดยที่ผู้ใหญ่ “หัวหงอก” หัวดำบางคน ดันหลังอยู่ตลอดเวลา และนับวัน “ยิ่งแรง” ขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะเหมือนกับต้องการ “ยั่วยุ” ให้เกิดความรุนแรงตลอดเวลา
สังเกตได้จากเป้าหมายเดิมได้เปลี่ยนไปแล้ว จากที่เคยเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือยกร่างใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยฉบับประชาชน มาเปลี่ยนแปลงเป็น 10 ข้อเรียกร้องที่มีเป้าหมายพุ่งตรงไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นการ “ท้าทาย” ความรู้สึกของสังคมไทย ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการแตะต้อง หรือ “จาบจ้วง” โดยตรงแบบนี้มาก่อน และอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ที่เริ่มรุนแรงจนน่ากลัวเหมือนกัน โดยเฉพาะปฏิกิริยาจากกลุ่มที่รักสถาบันฯ ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวตอบโต้ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่หลายคนมองออกในแบบที่ไม่ต้องคิดวิเคราะห์นานนัก ที่มองเห็นตรงกันว่ามีการ “ชักใย” อยู่ข้างหลัง ทั้งในเรื่องของ “ท่อน้ำเลี้ยง” โดยพิจารณาจากเวทีที่ดูอลังการ มีแสงสีเสียงที่ไม่ธรรมดา ซึ่งรูปแบบดังกล่าวต้องใช้เงินจำนวนมาก แม้ว่าจะมีการสงสัยกันไม่น้อยว่า “กลุ่มทุน” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากคณะก้าวหน้าจะอยู่เบื้องหลังเวทีดังกล่าวหรือไม่ นาทีนี้ถือว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่มีคำถามก็คือ “เมื่อไหร่จะลงเดินบนถนนนำหน้าเด็กๆ” สักที อะไรประมาณนั้นมากกว่า
การจัดเวทีคู่ขนานกับการชุมนุมของเด็กเยาวชน ที่ตึกไทยซัมมิทฯ โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล จากกลุ่มเดียวกันมาพูดเรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์”
แม้จะดูมุ่งเป้าหมายโดยตรง และหวังผลความนิยมจากแนวร่วม และจากคนที่มีแนวคิดที่เป็น “ปฏิปักษ์” เท่านั้น
แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ไม่ต่างจากการ “ยุแยง” ให้คนอื่นไปติดคุกแทนตัวเอง ซึ่งในที่นี้ก็ย่อมหมายถึงบรรดาเด็กเยาวชน นักศึกษาที่ออกมาร่วมชุมนุมตามเป้าหมายที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ขณะที่ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็คงใช้ “วาทกรรม” ที่ประดิดประดอย แบบ “ฉวัดเฉวียน” เลี่ยงกฎหมายไม่ให้เอาผิดพวกเขาได้โดยตรง เหมือนเช่นทุกครั้ง ซึ่งแผนการแบบนี้ถือว่า “อำมหิต” มาก ไม่ต่างจาก “อีแอบ” ที่คอยยุปลุกระดมมาจากต่างประเทศ อีกบางคน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องจับตานับจากนี้ไปหลังจากที่การชุมนุมที่มีแต่เยาวชนและนักศึกษาบางกลุ่มที่ “ร้อนวิชา”โดยเฉพาะพวกที่รับอาสาเป็น “แกนนำ” จนเวลานี้บางคนเริ่มมีความ “โดดเด่น โด่งดัง” เช่น นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ นายอานนท์ นำภา ทนายความ เป็นต้น รวมไปถึงอีกหลายคน ที่กำลังถูกจับตาว่าจะถูกดำเนินคดีอาญาตามอีกกี่คดี หลังจากนี้
เพราะสองคนแรกและอีกอย่างน้อยอีก 18-20 คน ที่เวลานี้ถูกออกหมายจับกราวรูด ขณะที่ทั้ง นายพริษฐ์ กับ นายอานนท์ ได้ถูกจับกุมดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 8 ข้อหา และได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำแบบเดิมอีก รวมไปถึงข้อหาหมิ่นอำนาจศาล ที่กำหนดวันไต่สวนคดีในวันที่ 11 กันยายน ซึ่งเป็นแค่เริ่มต้นเล็กน้อยเท่านั้น
แต่แน่นอนว่า พวกเขาโดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือ “เพนกวิน” กำลังฮึกเหิมเต็มที่ คงไม่ถอย มีแต่เดินหน้าต่อไปตามที่ประกาศเอาไว้หลังจากถูกปล่อยตัวไม่ทันพ้นรั้วศาลอาญา ว่า ไปร่วมชุมนุมใหญ่ ประกาศย้ำถึงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ที่เคยแถลงก่อนหน้านี้ต่อไป
แน่นอนว่า ในตอนนี้เด็กๆ เยาวชนพวกนี้คงกำลังเร่าร้อน คึกกันเต็มที่ โดยหารู้ไม่ว่าในอนาคตข้างหน้า เมื่อเลิกการชุมนุม หรือเมื่อจบการศึกษาไปพวกเขาจะต้องจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ต้องเดินขึ้นศาล ต้องหาทางประกันตัวอยู่แทบตลอดเวลา ถึงตอนนั้นคงไม่สนุกนัก กับการที่ต้องนับคดีจนมือเป็นระวิง และที่สำคัญ ถึงตอนนั้นจะรับมือไหวหรือไม่ ครอบครัวจะเป็นอย่างไร แต่คงไม่เป็นไร เพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ลิขิตเอง ขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งหัวหงอก หัวดำที่แอบอยู่ข้างหลังก็ลอยตัว รอดไป !!