ส.ส.พิษณุโลก ก้าวไกล ห่วงแกนนำโดนรวบอีกหลังชุมนุมวันนี้ จี้ นายกฯ พิสูจน์คำพูด หาทางออกร่วม ไม่ลอยตัวเหนือปัญหา
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ จ.จันทบุรี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกวันนี้ (16 ส.ค.) ว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ หลังจบการชุมนุมจะมีประชาชนอีกกี่คนที่ถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ ตนอยากเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิสูจน์คำพูดลูกผู้ชาย ที่ปากพูดว่าจะฟัง จะหาทางออกร่วมกับผู้ชุมนุม แต่การกระทำ คือ จับกุม ยัดข้อหา เร่งรัดการดำเนินคดีกับแกนนำ ส่งเจ้าหน้าที่ไปข่มขู่ คุกคามแกนนำและครอบครัว อย่างหน้าตาเฉย ให้สัมภาษณ์อย่างน่าละอายว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้สั่งการ
“การชุมนุมเพื่อเรียกร้องของประชาชน รัฐบาลควรแสดงความจริงใจรับฟัง ไม่ใช่จบเวทีไหนตามจับทันที วันนี้เราต้องยอมรับกันแล้ว ว่าประเทศของเราไปต่อไม่ได้ ในสภาวะการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ กระบวนการยุติธรรมที่ล้มเหลว โครงสร้างอำนาจที่บิดเบี้ยวทำให้การจัดสรรทรัพยากร ภาษี คุณภาพชีวิตของประชาชนไร้ซึ่งปัจจุบันและอนาคต แน่นอนว่าจะให้อยู่ไปวันๆ ก็พอจะทำได้ แต่อยู่อย่างมีหวัง มีศักดิ์ศรี มีที่ทางเจริญเติบโตสำหรับทุกคนรวมทั้งคนเล็กคนน้อย ในบริบทการเมืองแบบนี้ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำได้ คือการยอมรับและพูดคุยหารือกันอย่างจริงใจ ไม่ลอยตัวเหนือปัญหา โยนหน้าที่หาทางออกให้กับ ส.ส. ทั้งๆ ที่พวกเราเสนอไปหมดแล้ว รายงานญัตติรับฟังนักศึกษาที่ถูกโหวตคว่ำเป็นหลักฐานว่า สภาฯ เป็นแค่เครื่องมือถ่วงเวลาเท่านั้น และถ้าวันนี้มีการใช้กำลัง มีการดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมอีก มันคือจุดจบของรัฐบาล เพราะมันชัดแล้วว่าการเจรจาไม่เคยอยู่ในหัวของเผด็จการเลย แม้จะพยายามทำตัวเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย