ปธ.คกก.ตรวจสอบกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ” เผยสรุปรายงานคดีชุดแรก 2 แผ่น ส่ง “ประยุทธ์” คืนนี้ “บิ๊กแป๊ะ” ให้ปากคำยอมรับผิดพลาดสั่งงานแล้วไม่ตามดูต่อ รับปากจะเร่งแก้ด่วน พร้อมหารือฝ่ายกฎหมายหาช่องฟ้องใหม่ ระบุ “เนตร นาคสุข” ลาออกยังตามมาชี้แจงได้
วันนี้ (11ส.ค.) เวลา 18.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายวิชา มหาคุณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่ได้เชิญพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาชี้แจง ว่า ผบ.ตร.ชี้แจงว่าในระบบของทางตำรวจ เมื่อสั่งการหรือมอบอำนาจไปแล้วก็ถือเป็นการมอบสิทธิ์ขาดให้ โดยไม่ได้ติดตามดูกรณีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่มี พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งคดี ที่สั่งคดีในรายละเอียดอย่างไร ผบ.ตร.ไม่ได้รับรู้ ทางคณะกรรมการจึงให้ข้อสังเกตไปว่าตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และ พ.ร.บ.ตำรวจมีข้อกำหนดเรื่องการมอบอำนาจอยู่ โดยผู้บังคับบัญชาสามารถติดตามดูในรายละเอียดได้ว่าจะต้องแก้ไขหรือไม่ รวมไปถึงการถอนอำนาจ แต่ปรากฏว่า ผบ.ตร.ยอมรับว่า เป็นข้อผิดพลาดที่จะต้องไปแก้ไขโดยด่วน ซึ่งจะต้องแก้ไขให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินมาตรา 40 วรรค 2 ที่ระบุว่าผู้มอบอำนาจแล้วจะต้องติดตามและแก้ไขได้หากมีข้อผิดพลาด และถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่รู้เรื่องก็สามารถสอบถามและปรึกษากับทีมกฎหมายหรือที่ปรึกษาได้ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์กร
นายวิชา กล่าวต่อว่า ดังนั้น ผบ.ตร.ได้รับปากอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. จะไปแก้ไขระบบการมอบอำนาจไม่ให้มีช่องโหว่ที่จะให้เกิดกรณีอย่างเช่น คดีนายวรยุทธอีก 2. จะไปดูคดีนายวรยุทธ หลังจากที่ไม่ได้ดูมาเลย โดยจะไปเรียกสำนวนและหารือร่วมกับสำนักกฎหมายและคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ซึ่งถ้าสามารถทำให้คดีนั้นไม่ยุติได้ ผบ.ตร.ก็จะทำ โดยตนได้แจ้งให้ ผบ.ตร.ทราบแล้วว่า เจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้หรือคณะกรรมการ เห็นว่า จะต้องทำให้สิ่งที่ค้างคาใจของผู้คนให้หมดไป อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯได้เผยแพร่คิวอาร์โค้ด ที่จัดทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าไปหรือผู้ที่มีข้อมูลเสนอแนะเข้ามาได้
นายวิชา กล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่าได้ความคืบหน้ามากที่สุด โดย ผบ.ตร.รับปากว่าจะไปทบทวน รับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงให้มีการสั่งฟ้องได้ หากสามารถเริ่มกระบวนการสั่งไม่ฟ้องใหม่ได้ ท่านก็ยินดีจะทำ ซึ่งท่านรับปากกับตนอย่างลูกผู้ชาย และลงนามในข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ หากคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจ ที่มี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. หากพบว่ามีผู้กระทำความผิด ท่านจะนำตัวคนผิดมาลงโทษ และคำชี้แจงเหล่านี้ก็จะนำไปเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาและดำเนินการต่อไป ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างคณะกรรมการ กับ ผบ.ตร. ซึ่งลงนามไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ตำรวจไม่ได้รายงานผลสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะทำงานตำรวจแต่อย่างใด โดยคณะกรรมการชุดนี้ไม่เกี่ยวในจุดนั้น แต่จะเกี่ยวข้องกับในจุดที่สามารถแก้ไขได้
“เรื่องความเห็นแย้งของตำรวจที่ไม่มีการตรวจสอบอะไรเลย จุดนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ ผบ.ตร.จะนำกลับไปแก้ไข และเราจะรายงานนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลตำรวจให้ท่านจัดการ ให้เป็นไปตามสิ่งที่เราตรวจสอบ คือ เรามีข้อเสนอแนะ 2 อย่าง คือ 1. ปรับปรุงระเบียบข้อบังคับให้เป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และ 2. ต้องเป็นไปตามระเบียบของตำรวจด้วย” นายวิชา กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง จะมีผลกระทบต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า นายเนตร ลาออกยังไม่มีผลทันที ตนเข้าใจว่าอย่างนั้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ว่าสถานะของนายเนตรเป็นอย่างไร ซึ่งนายเนตรยังอยู่บัญชีรายชื่อที่จะต้องเชิญมาชี้แจง ส่วนจะลาออกไปแล้ว เราก็มีอำนาจในการเรียกมาชี้แจงอยู่ เพราะมีอำนาจตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะสรุปผลการทำงานตลอด 10 วันที่ผ่านมา เพื่อนำเรียนนายกรัฐมนตรีภายในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ โดยคาดว่าจะสรุปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาประมาณ 2 หน้ากระดาษ