สวนดุสิตโพล สำรวจเรื่องดูแลสุขภาพช่วงโควิด ส่วนใหญ่เอาใจใส่คนรอบข้างเพิ่ม ซื้ออุปกรณ์ป้องกันรองมา คงทำงานอดิเรกเดิมๆ ไปสถานบันเทิง ที่แออัดลดลง
วันนี้ (9 ส.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “การดูแลสุขภาพของประชาชนหลังมีโควิด-19 ระบาด” กลุ่มตัวอย่าง 1,123 คน สำรวจระหว่างวันที่ 3-7 สิงหาคม 2563 พบว่า พฤติกรรมด้านสุขภาพ ที่ประชาชนปฏิบัติมากขึ้น ได้แก่ การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ร้อยละ 80.59 รองลงมาคือ ซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ร้อยละ 75.78 ส่วนพฤติกรรมที่ปฏิบัติเท่าเดิม คือ การทำงานอดิเรกต่างๆ ร้อยละ 56.01 และพฤติกรรมที่ปฏิบัติลดลงมากที่สุด คือ การไปสถานบันเทิง สถานที่แออัด ร้อยละ 76.58
จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า หลังจากมีการระบาดของโควิด-19 คนไทยมีพฤติกรรมดูแลสุขภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทิศทาง “มากขึ้น” ล้วนเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค โดยเฉพาะปัจจัยด้านยารักษาโรคที่พบว่าคนไทยมีการตระเตรียมซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 เพิ่มขึ้น และนอกจากจะซื้อเพื่อตนเองแล้ว ยังดูแลเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้างมากขึ้นอีกด้วย พฤติกรรมป้องกันโควิด-19 ด้วยตนเองอย่างเคร่งครัดของคนไทยเช่นนี้ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมากว่า 2 เดือน ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย