“บิ๊กตู่” แจงตั้ง “ดอน” ควบรองนายกฯ อัปเกรด กต.ให้ดูมิติเศรษฐกิจเพิ่ม อ้างยกเก้าอี้ รมช.แรงงานให้ “นฤมล” หวังให้เป็นกระทรวง ศก. ย้อนถามมีกี่คนที่ไม่แฮปปี้ ครม.ใหม่ ไม่ปฏิเสธมีการชงชื่อ “อนุชา” นั่งเก้าอี้โฆษกรัฐบาล
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการมอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ควบรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งว่า วันนี้เราต้องการอัปเกรดให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) สามารถดำเนินการในเรื่องของธุรกิจ เศรษฐกิจไปด้วย เพราะสังเกตว่าเวลาทูตต่างประเทศเข้ามา เขาจะไม่พูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างเดียว แต่จะพูดถึงโครงการต่างๆ ที่จะร่วมมือกับเรา จึงคิดว่าบางอย่างจะมอบหมายให้นายดอนมาช่วย และในการเดินทางไปต่างประเทศของนายดอนสามารถที่จะเหมือนเป็นตัวแทนของตนในการพูดคุยเจรจา โดยเอาหลักการ กฎหมาย และกฎกติกาทั้งของบีโอไอ หรืออีอีซี ไปประชาสัมพันธ์ด้วย ในวันข้างหน้าคิดว่าเอกอัครราชทูต กงสุล ผู้แทนทางการค้าของเราจะต้องเร่งรัดในเรื่องเหล่านี้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 รวมทั้งความยั่งยืนในอนาคต เพราะอนาคตเราต้องใช้เวลาทำ ทุกอย่างเป็นโครงการที่ใหญ่พอสมควร และจะออกมาเรื่อยๆ แล้ววันข้างหน้าการตกงานก็จะลดลง แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรใหม่เลยก็จะอยู่ในที่เก่า เราต้องแก้ปัญหาในรูปแบบใหม่ แก้ปัญหาทั้งระบบ แต่อาจต้องใช้เวลาบ้าง
นายกฯ กล่าวว่า เช้าวันเดียวกันนี้มีความยินดีที่สื่อเสนอข่าวว่าสถิติการจองโรงแรมและห้องพักแน่นเต็มไปหมด ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองหลักและเมืองรองเต็มทั้งหมด ประมาณ 2 แสนกว่าห้อง ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ถือว่ามีการพัฒนาไปเรื่อยๆ และอยู่ระหว่างการคิดกันว่าในอนาคตเราจะทำอย่างไร เพราะถ้าเป็นการท่องเที่ยวเฉพาะภายในก็ได้เพียงแค่ 2 ล้านกว่าคน แต่การท่องเที่ยวของเราต่อปีประมาณ 10 กว่าล้านคน ดังนั้น เราต้องหามาตรการต่างๆ ผ่อนคลายออกมา แต่ทุกอย่างจะต้องปลอดภัย ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องคิดตั้งแต่ต้นทางก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามา การขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินแต่ละเที่ยวลงมายังสนามบิน เข้าที่พักแล้วไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ท้องถิ่นจะต้องให้ความร่วมมือ ไม่เช่นนั้นก็จะขัดแย้งกันไปหมด ถ้าเข้าใจตรงกันทั้งวงจรก็จะลดปัญหาความขัดแย้งลงไป ไม่เช่นนั้นข้างล่างก็จะบ่นว่าเศรษฐกิจฐานรากไม่ดี เราต้องคิดใหม่ว่าทำอย่างไรจะให้มีเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากตอนนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการจ้างงานในแผนการฟื้นฟู
นายกฯ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ตนเห็นข่าวประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในช่วง 6 เดือน เพิ่มขึ้นแสนกว่าล้านบาท เราจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเพื่อให้มีการลงทุนต่อเนื่อง เรื่องอื่นๆ ก็ค่อยพูดค่อยจากัน
เมื่อถามถึงเหตุผลในการตั้ง รมช.แรงงาน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนอยากให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจอีกกระทรวงหนึ่ง เพราะเรามีการจ้างงานจำนวนมาก เราจึงต้องมีคำตอบ การมีงานทำมากขึ้น ข้อมูลต่างๆ มีเยอะมาก สิ่งสำคัญอยากให้มีคนไทยได้ทำงานบางประเภทบ้าง อัปเกรดตัวเองให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ไม่ใช่อยู่เฉพาะแรงงานที่หลายคนไม่อยากทำ และนี่คือความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างด้าว เรื่องค่าจ้างมีผลต่อการประกอบธุรกิจทั้งสิ้น ดังนั้น คนไทยต้องอัพเกรดตัวเองให้มีความรู้ มีการฝึกอบรมเพื่อตัวเองให้เป็นหัวหน้าให้ได้ ไม่เช่นนั้นพอเป็นงานระดับล่างทุกคนก็ไม่อยากทำ โดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือ อย่างวันนี้รัฐบาลก็เปิดโครงการการจ้างงานมากขึ้น ขอร้องว่าอย่าเลือกงานในตอนนี้กันมากนัก ขอให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ในส่วนมาตรการการเงินการคลังสมัยเก่าและสมัยใหม่ก็มีการผ่อนคลายไปหมดแล้ว เพียงแต่ต้องระวังในวันข้างหน้าว่าจะหาเงินมาจากไหนเข้ามาในระบบเพื่อดูแลเรื่องเงินกู้ รวมทั้งเงินที่จะต้องใช้จ่ายต่อไป
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ลงมาเลย เราต้องรู้ขั้นตอน ความควรไม่ควร วันนี้ตนก็ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย เพราะถือว่าเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอน
เมื่อถามว่า มองฟีดแบ็กจากภาคเอกชนอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้มอง เพราะฟังเขาทุกวันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะมีการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็กำลังหาอยู่ สื่อมีใครเสนอขึ้นมาบ้าง ช่วยหามาและเสนอมาให้ผม จะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็เป็นเรื่องที่ผมจะตัดสินใจเอง สื่ออยากได้ใครก็ลองเสนอขึ้นมา”
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีชื่อของนายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะมาดำรงตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็มีชื่อมาหลายคนเหมือนกันแหละ แล้วสื่อเลือกใคร” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวระบุว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ ตัดสินใจ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า “นั่นไง พอดีก็ไม่ชมไม่ว่า พอไม่ดีก็นายกฯ รับผิดชอบ มันก็เป็นแบบนี้แหละ”
เมื่อถามว่า ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ มีเสียงฟีดแบ็กจากภาคธุรกิจและเอกชน นายกฯ พร้อมที่จะรับฟังหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คุยกันอยู่แล้ว สื่อไม่รู้หรือว่าเราคุยกันอยู่แล้ว คณะที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจเขาก็คุยอยู่
เมื่อถามว่า แต่มีฟีดแบ็กต่อรัฐมนตรีบางคนว่าชื่อยังไม่ถึง พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า ที่บอกว่าบางคน มันมีกี่คนล่ะ กี่คนที่ชอบและกี่คนที่ไม่ชอบ แล้วจะทำอย่างไรให้คนที่ชอบและไม่ชอบเขาเข้าใจว่าเราจะทำงานอย่างไร ครั้งนี้มันไม่ได้อยู่ที่ตัวเขา มันอยู่ที่ ครม. อยู่ที่นายกฯ ว่าจะดำเนินนโยบายเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจในวันข้างหน้า เรื่องนี้ตนพูดคุยกับเขามาตลอด มีที่ปรึกษาเยอะแยะไปหมด สมาคมต่างๆ ก็ไปพบมาหมดแล้ว แต่มีบางคนที่เดือดร้อนต้องการเร็วและต้องการได้ แต่อย่าลืมว่าจะต้องนึกถึงคนอื่นอีกหลายพวก ทำอย่างไรถึงจะเกิดความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยระบุว่าจะตั้งทีมเศรษฐกิจมาร่วมงาน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องคิด กำลังร่างอยู่ ส่วนจะเสร็จเมื่อไหร่ก็เห็นเมื่อนั้น ขอให้รอ ครม.ใหม่ทำครบขั้นตอนเสียก่อน ขอร้องสื่ออย่าถามเรื่องนี้อีกเลย เพราะยังอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อถามว่า ตั้งความหวังกับ ครม.ใหม่อย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์เน้นเสียงกล่าวว่า เหมือนเดิม