xs
xsm
sm
md
lg

“เนตร นาคสุข” เมินแจง กมธ.ปมสั่งไม่ฟ้อง “บอส” จ่อเรียกรอบ 3 พร้อมทายาทเรดบูล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การประชุมคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (5 ส.ค.)
กมธ.กฎหมาย สภาฯ ถกคดีทายาทกระทิงแดง ไร้เงา “เนตร นาคสุข เตรียมเชิญรอบ 3 รวมถึงบอส เจ้าของเรื่อง อัยการป้องไม่สั่งฟ้องเป็นไปตามพยาน-สำนวนพีระพันธุ์ จวกอย่าทำให้สถาบันยุติธรรมเสียหายไปมากกว่านี้

วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ร่วมกับ คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการรัฐ วิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร โดยมีการเชิญนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องในคดีของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำคดีนี้ของฝ่ายอัยการ นำโดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา และนายฤชา ไกรฤกษ์ อธิบดีอัยการ เจ้าของสำนวน พร้อมเชิญนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ที่ตรวจวัดความเร็วรถของนายวรยุทธ 76 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาชี้แจงข้อเท็จจริงการทำคดีต่อกรรมาธิการ แต่ในวันเดียวกันนี้นายเนตรไม่ได้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการแต่อย่างใด

โดยนายประยุทธกล่าวว่า การสั่งไม่ฟ้องของนายเนตรครั้งนี้มีอำนาจตามกฎหมาย เหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องเป็นไปตามพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งนายวรยุทธมีการร้องขอความเป็นธรรมอยู่หลายครั้ง รวมถึงการร้องต่อ สนช. ทำให้มีพยานยืนยันสอดคล้องตรงกันว่าความเร็วรถของนายวรยุทธไม่ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนนายสายประสิทธิ์ยืนยันว่า เป็นการคำนวณตามหลักการทางวิชาการ โดยวิเคราะห์จากภาพที่เกิดขึ้น ตรวจสอบความเร็วจากหน้าปัดนาฬิกาที่โชว์บนคลิป และใช้สูตรปกติคือ ระยะทางหารด้วยเวลา ซึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ เวลาคำนวณการใช้ถุงลมนิรภัยจะใช้กล้องความเร็วสูงประมาณ 500 เฟรมต่อวินาที ดังนั้น สมมติฐานที่เกิดขึ้นเป็นการทำตามหลักการ และจะใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สนช.

ด้าน พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ตช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่มีคำสั่งฟ้อง นายวรยุทธกล่าวว่า โดยคำสั่งของ ผบ.ตร.กำหนดกรอบเวลาทำงาน 15 วันซึ่งภายในสัปดาห์หน้าจะครบ ทางคณะกรรมการฯ จะรวบรวมข้อเท็จจริงในส่วนของตำรวจ โดยมีการวางกรอบ การทำงานเอาไว้แล้ว รวมถึงขั้นตอนที่ไม่เห็นแย้งของผู้ช่วย ผบ.ตร. กรณีอัยการไม่ฟ้องคดีนี้ด้วย ทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และอยู่ระหว่างการสอบสวน ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าน่าจะสามารถชี้แจงให้ประชาชนผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษา กมธ.กล่าวว่า คดีนี้มีสิ่งผิดปกติไปจากแบบแผนของการทำคดี การสอบสวน และการติดตามตัวผู้ต้องหาหลายอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็ถือเป็นคดีที่ธรรมดามาก โดยเฉพาะความผิดปกติของพยานหลักฐานและพยานบุคคล โดยพยานบุคคลนั้นไม่เคยมีใครออกมาพูดว่า แต่ละคนมีที่มาที่ไปอย่างไร หรือรู้เห็นในเหตุการณ์ตรงนั้นจริงหรือไม่ มีแต่พูดคำบอกเล่าของพยาน ซึ่งในวิชาชีพกฎหมายนั้นฟังไม่ได้ ทั้งนี้ ประเด็นหลักอยู่ที่พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการที่ใช้ดุลพินิจในการสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง ไม่มีใครตอบได้นอกจากคนทำ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องออกมาชี้แจงเองว่าเหตุผลที่สั่งเพราะอะไร หากผิดต้องรับผิดส่วนตัว แต่กลับเอาองค์กรของตัวเองผ่านคนอื่นมาชี้แจง สรุปแล้วขณะนี้สังคมกำลังถูกคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจ มาอธิบายสิ่งที่คนอื่นทำ ส่วนคนที่ทำไม่ต้องพูด ตนถามว่ามันปกติหรือไม่

“ผมสงสัยว่าเพราะอะไรทั้ง 2 องค์กรถึงพร้อมใจกันเอาชื่อเสียงเกียรติยศกระบวนการยุติธรรมของประเทศมาเสี่ยงกับคนเพียงแค่ 2 คน แทนที่จะให้คน 2 สองคนนั้นมาชี้แจงต่อสังคมเอง แต่กลับทำในสิ่งที่ท่านบอกว่าทำไม่ได้ ความเห็นส่วนตัวฟังไม่ได้ ในฐานะคนในวิชาชีพกฎหมาย ผมขอเถอะ อย่าทำให้สถาบันยุติธรรมของเราเสียหายไปมากกว่านี้ เอาเกียรติยศของผู้รักษากระบวนการยุติธรรมออกมา ใครผิดให้เขาผิดไป ใครถูกให้เขาชี้แจงเองไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะเอาความเห็นส่วนตัวมาชี้แจงแทนคนอื่น” นายพีระพันธุ์กล่าว

ส่วนนายฤชาชี้แจงว่า ในฐานะส่วนตัวความจริงพยานนิติวิทยาศาสตร์กรณีนี้บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องนำมาใช้ในกรณีนี้เลย เพราะขับรถด้วยความเร็วสูงก็เป็นการประมาทแล้ว อย่างไรก็ตาม นายฤชาปฏิเสธที่จะชี้แจงในประเด็นที่ก้าวล่วงดุลพินิจของพนักงานอัยการท่านอื่นหลังจากรับสำนวนต่อ เพราะเกรงว่าจะเป็นการทำลายชื่อเสียงองค์กร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กมธ.มีมติร่วมกันว่าจะส่งหนังสือเชิญบุคลเข้าชี้แจงต่อ กมธ.อีกครั้ง อาทิ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช. และนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น