อดีตเลขา กมธ.กฎหมาย สนช. โผล่ชี้แจงยัน กมธ. ไม่มีสอบพยานใหม่เพิ่มเติมคดี “บอส” ย้ำไม่รู้เห็นหลัง อสส.แจ้งผลให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรม ไร้อิทธิพลให้เปลี่ยนคำสั่ง พร้อมขอโทษสื่อปมล่วงเกิน ปัดตอบคำถาม แนะรอฟังผลสอบ คกก.ชุดนายกฯตั้ง
วันนี้ (31 ก.ค.) นายธานี อ่อนละเอียด อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงข่าวอีกครั้งว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสื่อมีความคลาดคลื่อนไปบางประการ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุกรณ์ทั้งหมดได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของรองอัยการสูงสุดที่มีคำสั่งให้สอบเพิ่มเติม ตามคำร้องขอความเป็นธรรมของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งกล่าวอ้างว่าพนักงานอัยการมิได้นำประจักษ์พยานที่สอบเพิ่มเติมมาพิจารณา โดยมีคำสั่งให้ยุติรื่องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว นายวรยุทธ อยู่วิทยา เห็นว่า ไม่ได้รับความป็นธรรม จึงได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 4 พ.ค. 49 ร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญติแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการ ได้สอบหาและศึกษาโดยเชิญประจักษ์พยานที่ได้ให้การไว้แต่เดิมมาประชุมชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ มิได้สอบประจักษ์พยานใหม่เพิ่มเติมจากที่ให้การไว้เดิมแต่อย่างใด
2. วันที่ 16 ธ.ค.2559 คณะกรรมาธิการมีมติรวบรวมผลการสอบหาและการศึกษาข้อเท็จจริงส่งให้กับพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
3. ต่อมาพนักงานอัยการได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 4 ก.พ. 61 แจ้งผลการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับกรณีการร้องขอความเป็นธรรมของนาวรยุทธ ต่อคณะกรรมาธิการการ ว่า อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาสอบหาข้อเท็จจจริงของคณะกรรมาธิการแล้วมีคำสั่งให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรม และถือว่าได้แจ้งผลการพิจรณาให้ผู้ร้องขอความป็นธรรมทราบแล้ว
4. เมื่อได้รับแจ้งผลการพิจารณาของอัยการสูงสุดให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวแล้ว คณะกรรมาธิการก็มิได้ดำเนินใดๆ ต่อไปอีก และนายวรยุทธ ก็มิได้ติดต่อให้คณะกรรมาธิการดำเนินการอีกแต่อย่างใด เพระเขาก็ทราบผลการพิจารณาแล้ว และผู้ร้องจะดำเนินการหรือร้องให้สอบพยานเพิ่มเติมใดๆ หลังจากนี้อีก คณะกรรมาธิการมิได้รู้เห็นหรือเข้าไปเกี่ยวข้องอีกแต่ประการใด
5. การที่อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรรมนั้น ย่อมแสดงให้ว่า กรรมาธิการมิได้มีอิทธิพลที่จะส่งผลให้อัยการสูงสุดเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ซึ่งโดยบทบาทอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, สภาผู้แทนราษฎร, วุฒิสภา ก็ดีล้วนทำหน้าที่นิติบัญญัติ มิได้มีอำนาจไปบงการ หรือสั่งการฝ่ายบริหารหรือองค์กรต่างๆ ได้แต่ประการใด มีอำนาจเพียงแค่ศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริง แล้วส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปเท่านั้น
6. บัดนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการตามคำสั่งแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงขอให้สื่อมวลชนรอผลของคณะกรรมการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายธานี ได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชนต่อการแถลงคราวก่อนหน้านี้ด้วยว่า หากตนล่วงเกินบางประการไป ต้องขอโทษและขออภัยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายธานี แถลงข่าวเสร็จ ได้เดินออกจากห้องแถลงข่าว โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยระบุเพียงว่าให้รอผลการพิจารณาของ กก.ที่นายกฯตั้งขึ้นเท่านั้น
