xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยวิชามาร ทีมวิ่งผลัดสี่คูณร้อยรับ ไม้ส่งไม้ช่วย “บอส วรยุทธ” จับโป๊ะ พยานลับที่โผล่มาใหม่ “พล.อ.ท.” สนิทกับพ่อแม่ทายาทกระทิงแดง!! **ตามดู ธุรกิจ “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” Super VIP คนนี้ทำมาหากินอะไรบ้าง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ว่าด้วยวิชามาร ทีมวิ่งผลัดสี่คูณร้อยรับ ไม้ส่งไม้ช่วย “บอส วรยุทธ” จับโป๊ะ พยานลับที่โผล่มาใหม่ “พล.อ.ท.” สนิทกับพ่อแม่ทายาทกระทิงแดง !!

กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทอภิมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจแสนล้าน “กระทิงแดง” ได้สั่นสะเทือนความรู้สึกของสังคมอย่างรุนแรง... คนในสังคมรับไม่ได้กับอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยมีปมคาใจหลายจุด ทั้งพิรุธพยานใหม่ที่เพิ่งโผล่ และส่อไปในทางใช้ “เส้นสาย” ช่วยเหลือกันจนคดีพลิก

ประเด็นเหล่านี้ต้องย้อนมาดูไทม์ไลน์กันสักนิด ตั้งแต่คดีนี้เกิดขึ้นปี 2555 และยืดเยื้อมากว่า 8 ปี ก็จะเห็นทีมวิ่งผลัด ที่คอยรับ-ส่งไม้ ช่วยเหลือ “บอส” มาเป็นทอดๆ เป็นขั้นเป็นตอน

เริ่มจาก “ไม้แรก” ก็ต้องบอกว่า จากข้อหา “ขับรถชนคนตายโดยประมาท” รอดพ้นถูกดำเนินคดีทันท่วงที ไปจนถึงให้การช่วยเหลือ “บอส” ชิ่งหนีไปต่างประเทศได้ เพราะ ตำรวจ เตะถ่วง หน่วงเวลา ค้าสำนวน ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ

ว่ากันว่า ตำรวจใช้เวลาสอบสวนคดีนี้ ประมาณ 6 เดือน แต่มีความเห็นสั่งฟ้องแค่ 3 ข้อหา ไม่ฟ้อง 2 ข้อหา

คดีนี้ ผ่านการทำงานของตำรวจตั้งแต่ นายตำรวจคนดังยุคนั้น เจ้าของสโลแกน “มีวันนี้ เพราะพี่ (ษิณ) ให้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ผ่านยุคของ ผบ.ตร.ทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าไปแล้วในขั้นตอนของตำรวจก็ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรนัก สำนวนก็ว่าไปตามหลักฐาน พยาน เพียงความล่าช้าที่ไม่ว่าเจตนาหรือไม่ก็ตาม ก็ทำให้ “บอส” ได้ประโยชน์

จากตำรวจส่งต่อมา “ไม้ที่สอง” ก็คือ ทนายของฝ่ายอยู่วิทยา ที่งัดวิชามาร ว่าด้วยเทคนิคการขอ “เลื่อนคดี” พบอัยการ มาใช้จนคดีหมดอายุความ เหลือแค่ข้อหาขับรถชนคนตายโดยประมาท โดยมีบันทึกไว้ว่า คดีของวรยุทธ มีการขอเลื่อนคดีทั้งหมด 7 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2559-2560


เรียกว่า ทนายขยันหาเหตุมาขอเลื่อน และหนึ่งในเหตุที่เลื่อนคดียื้อเวลาได้นาน ก็คือ การร้องขอความเป็นธรรมพยานไปที่ “คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สนช.”

“ผลัดที่สาม” ว่าด้วยการร้องของ กมธ. นี่เองที่ร่ำลือกันว่าเป็นจุดเริ่มของการพลิกคดี-คดีพลิก จนเป็นคดีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

ถ้าคิดในทางทฤษฎีสมคบคิดก็ต้องบอกว่า เมื่อทนายหาช่องชงเรื่องเข้า กมธ. ถามว่า ทำไมต้องใช้ กมธ.ยุติธรรม ยุค สนช. ก็รู้ๆ กันว่า “พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ” สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะอดีต ปธ.กมธ.กฎหมาย สนช. นั่นเป็นน้องชาย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ใหญ่ 3 ป. แห่ง คสช. อำนาจบารมีเป็นที่จินตนาการกันได้

ว่ากันว่า กมธ. พอรับไม้ผลัดจากทนาย ก็อ้างมีผู้ขอความเป็นธรรม ก่อนสรุปว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ว่า “บอส-วรยุทธ” ไม่มีความผิด ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดทบทวนคำสั่งฟ้อง พร้อมๆ กับขอให้อัยการส่งกลับคดีให้ตำรวจทบทวน

มาถึง “ไม้ผลัดที่สี่” ก็คือ อัยการ พอรับมาจาก กมธ. ก็มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมจำนวน 2 ปาก ตามข้อเสนอความเห็นของ กมธ.ยุติธรรม ที่กล่าวอ้างขึ้นใหม่

ทั้งที่พยาน 2 ปากนี้ ไม่เคยให้การกับพนักงานสอบสวนมาก่อน เพิ่งปรากฏตัว ในปี 2562 ภายหลังวันเวลาเกิดเหตุนานถึง 7 ปี ... ซึ่งก็วากันว่า ปกติพยานลักษณะนี้ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือรับฟังได้ แต่อัยการกลับรับฟังคำพยานเช่นนี้

ว่ากันว่า การสั่งตำรวจให้สอบเพิ่มเติมจากอัยการ ภาษาในวงการวิชามาร เขาว่า เท่ากับล็อกมือตำรวจไว้ ซึ่งก็เท่ากับ “ล็อกผลทางคดี” ได้ เพราะพยานใหม่ที่ว่าก็จะให้การไปตามที่อัยการต้องการ โดยที่ตำรวจไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง - พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ
ปมคาใจก็คือว่า ในรายงานข้อเท็จจริงและผลการสอบสวนของ กมธ.ชุดนี้ มีผลอย่างไร ต่อข้อหาที่เหลืออยู่เพียงข้อหาเดียว คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

ทำให้มีการสอบสวนใหม่ ทั้งๆ ที่ อัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ขออนุมัติออกมายจับ เตรียมสำนวนการสอบสวนไว้พร้อมแล้ว และให้นำตัวยื่นฟ้องศาลทันที ถ้าไม่ใช้ “อิทธิฤทธิ์” แห่งผู้มากบารมี คอยผลักคอยดันจะทำได้หรือ ? หรือว่า ต่างตอบแทนกันในฐานะที่เป็นคนกันเองแต่งตั้งกันมา

ซ้ำร้าย ปริศนาพยานที่เพิ่งโผล่มาใหม่เมื่อ เดือนธันวาคม 2562 ที่หลายคนสงสัย ถือเป็นจุดสำคัญจนพลิกคดีอุกฉกรรจ์ให้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ นี้เป็นใครมาจากไหน 7 ปีที่ผ่านมาไปอยู่ไหนมา ?

งานนี้คนรู้จริงบอกกันมาว่า พยานคนสำคัญหนึ่งในสองนี้ “พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร” มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ “พ่อ-แม่บอส” เพราะแม่ของบอส เป็นลูกสาวนายทหารแห่งทัพฟ้า ทอ.เช่นกัน นับเป็นครอบครัว ทอ. ที่รู้จักกันมาตั่งแต่เด็กๆ

การที่ พยานเป็นถึง “พล.อ.ท.” ก็ย่อมทำให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป ขณะที่พยานอีกคนก็เป็นคนซึ่งให้การกับตำรวจสนับสนุนไปด้วยตามที่อัยการต้องการ ขับรถตามหลังและเห็นเหตุการณ์ โดยก็มีความสงสัยกันวา พยาน 2 ปากนี้ ของจริง หรือพยานที่เสกสรรปั้นแต่งกันแน่

งานนี้บอกได้คำเดียวว่า “วิชามารทีมวิ่งผลัดสี่คูณร้อย” ซึ่งอาจจะรวม “ไอ้โม่ง” ผู้มากบารมีคอยช่วยเหลือ Super VIP “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” เป็นกลุ่มคนที่ทำร้ายทำลายความน่าเขื่อถือขบวนการยุติธรรม ที่ทำให้สังคมลุกฮือกันขึ้นมาเป็นประวัติการณ์

เมื่อสังคมกดดันหนักขนาดนี้ ก็ต้องตามดูว่า ถึงที่สุดเหตุสั่งไม่ฟ้อง “บอส” ของอัยการ จะมีคำอธิบายเป็นอย่างไร !!

**ตามดู ธุรกิจ “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” Super VIP คนนี้ทำมาหากินอะไรบ้าง


โซเชียลฯ ร้อนระอุต่อเนื่องจากกรณีอัยการไม่สั่งฟ้อง “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” ทายาทเจ้าของเครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ธุรกิจแสนล้าน

แม้จะรู้กันว่า อาณาจักรกระทิงแดง ที่ทำให้ตระกูล “อยู่วิทยา” ถูกจัดว่าเป็นตระกูลร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของเมืองไท ยยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่กับ Super VIP “บอส-วรยุทธ” ซึ่งเป็นคนในตระกูลนี้ส่วนตัวมีชือในธุรกิจอะไรยังไงบ้าง เรื่องนี้ “สำนักข่าวอิศรา” ไปขุดค้ย มาให้ดูกัน

ว่ากันว่า “บอส วรยุทธ” เป็นกรรมการ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาวาลลิโน เซอร์วิส จำกัด บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด และบริษัท เกรท ดีไซน์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ จำกัด

แต่ละบริษัท เริ่มจาก “บริษัท คาวาลลิโน เซอร์วิส จำกัด” จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2552 ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 2124 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ประกอบธุรกิจให้บริการซ่อมรถยนต์ ปรากฏชื่อ “เฉลิม อยู่วิทยา-วุฒา ภิรมย์ภักดี-ม.ล.กอกฤษต กฤดากร-วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี -วาริท อยู่วิทยา-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี และ วรยุทธ อยู่วิทยา เป็นกรรมการ ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 ถือหุ้น 20,000 หุ้น หรือคิดเป็น 10%

งบการเงินล่าสุดรอบปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2561 มีรายได้รวม 108,282,155.38 บาท กำไรสุทธิ 11,864,476.52 บาท สินทรัพย์รวม 70,677,687.88 บาท หนี้สิน 44,194,516.80 บาท กำไรสะสม 6,483,171.08 บาท

สอง “บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด” จดทะเบียนวันเดียวกัน เมื่อ 12 ก.พ. 2552 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท คาวาลลิโน เซอร์วิส จำกัด ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 “วรยุทธ อยู่วิทยา” ถืออยู่ 30,000 หุ้น หรือ 30%

งบการเงินล่าสุดรอบปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2561 รายได้รวม 1,554,216,746.04 บาท กำไรสุทธิ 39,018,264.57 บาท สินทรัพย์ 597,061,481.22 บาท หนี้สิน 429,545,652.62 บาท กำไรสะสม 137,515,828.60 บาท

ขณะที่ “บริษัท เกรท ดีไซน์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ จำกัด” จดทะเบียนวันที่ 16 ส.ค. 2555 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 63/4 ซ.สุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ประกอบธุรกิจขายปลีกวัสดุก่อสร้าง ปรากฏชื่อ “วรยุทธ อยู่วิทยา” เป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 “บอส” ถือ 30,000 หุ้น หรือ 30%

บริษัท แจ้งงบการเงินล่าสุดรอบปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562 รายได้รวม 22,860,359.37 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,570,597.65 บาท สินทรัพย์ 42,872,112.57 บาท หนี้สิน 57,282,120.07 บาท ขาดทุนสะสม 24,410,007.50 บาท

สรุปได้ว่า “บอส” ทำธุรกิจซ่อมรถยนต์ และขายรถยนต์ มีรายได้ประมาณ 1,662.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 50.8 ล้านบาท ส่วนธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ทำแล้วขาดทุน

นี่คือธุรกิจในชื่อของ “บอส วรยุทธ” ที่วันนี้ล่องลอยอยู่ต่างประเทศ หลังหลบหนีคดีขับรถชนคนตายมานานหลายปี จนล่าสุดเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง ชื่อของ “บอส” ในฐานะ Super VIP ก็โด่งดังขึ้นมาอีกระลอก

แต่โด่งดังในแง่นี้ ธุรกิจในเครือกระทิงแดงของตระกูลอยู่วิทยา รีบโบกมือส่ายหน้าว่า “บอส วรยุทธ” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจแต่ประการใด!!


กำลังโหลดความคิดเห็น