“สุดารัตน์” นำทัพ “เพื่อไทย” อุ่นเครื่องเลือกตั้งท้องถิ่น เตรียมทำไพรมารีโหวตคัดเลือก ส.ก. โวย รบ.ยึกยักสนามท้องถิ่น ตั้ง กก.หลายชุดเตรียมสู้ศึก ซัด คสช.ริบอำนาจ เตรียมทวงคืน ส.ข.ให้ชาวกรุงฯด้วย
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมหารือเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. ร่วมทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมี ส.ส.กทม., อดีต ส.ส.กทม., อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม., สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) ของพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ทีมงานใน กทม. ประชุมกันทุกเดือนเพื่อปรับปรุงปัญหาเรื่องโครงสร้าง พูดคุยกันเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กรุงเทพมหานคร ที่มีการตัดอำนาจประชาชนในบางส่วนออกไป ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามา มีการรวบอำนาจสร้างรัฐราชการขึ้น รวบอำนาจไม่ให้มี ส.ข. แล้วใช้วิธีแต่งตั้งข้าราชการประจำเข้ามาทำหน้าที่ ผลจากการยึดอำนาจ คสช. ทำให้ ส.ก. กับ ส.ข.ไม่ได้ทำงาน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่จัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น
“คนที่ประสงค์ลงสมัคร ส.ก.ในนามของพรรคเพื่อไทยต้องมีความมุ่งมั่น ทำงานในพื้นที่ให้หนัก ลงพื้นที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดนคณะกรรมการสรรหา จะดูเรื่องนี้เป็นพิเศษ เรายึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผู้สมัคร ส.ก.บางเขตที่มีหลายคน จะมีการทำไพรมารีโหวตในบางเขต เพื่อให้ได้คนที่ประชาชนยอมรับมากที่สุด” คุรหญิงสุดารัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการพัฒนานโยบายภาค กทม.ของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 4 ด้าน ยังได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยได้มีการตั้งคณะทำงานพัฒนากรุงเทพฯ ใน 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสให้ชาว กทม. เพราะ กทม.คือศูนย์กลางของเศรษฐกิจประเทศ, 2.ด้านการพัฒนาการจราจร ขนส่ง และการเดินทาง รับผิดชอบแผนงานนโยบายการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด พัฒนาการขนส่งสาธารณะ ทางเท้า ทางจักรยาน เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางของคน กทม.ให้สะดวกขึ้น, 3.ด้านการพัฒนาเมืองและผังเมือง ให้ทันสมัยน่าอยู่ และปลอดภัย เป็นเมือง Creative City
4.ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ซึ่งรับผิดชอบแผนงานนโยบายการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5, น้ำท่วม และน้ำเสีย, 5.ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพคน กทม. ซึ่งรับผิดชอบแผนงานนโยบายในเรื่องสุขภาพ การรักษาพยาบาลที่กำลังมีปัญหาการทุจริตโครงการ 30 บาทใน กทม. การส่งเสริมสุขภาพให้คน กทม. แข็งแรง รวมทั้งการเพิ่มพื้นที่ออกกำลังกาย การจัดให้มีอาหารปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของชาว กทม. และ 6.ด้านการส่งเสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นกำลังในการสร้างเศรษฐกิจและสังคม กทม.
ขณะที่คณะกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชาว กทม. ได้พัฒนา Application และจะเปิดเวที “FUNG FORUM” (ฟัง ฟอรัม) เพื่อฟังความคิดของชาว กทม.
ด้านคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร กทม. ตั้งเป้าหมายการลดความเป็นรัฐราชการ เพิ่มอำนาจและโอกาสให้ชาว กทม. โดยจะให้มีคณะกรรมการภาคประชาชนเข้าไปช่วยกำกับและดูแลการทำงานของ กทม. ตั้งแต่ระดับสำนักงานเขต จนถึงระดับสำนักต่างๆ
ในส่วนของคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร ส.ก. ได้รายงานผลการพิจารณาผู้สมัคร ส.ก. ในรอบที่ 1 จำนวน 20 คน เพื่อนำเสนอให้ผู้บริหารพรรคพิจารณา ตามระเบียบข้อบังคับพรรคต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดถึงปัญหาโครงสร้างของ กทม.ตาม พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ที่คณะรัฐประหาร (คสช.) ให้มีการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 โดยให้มีการชะลอการเลือกตั้ง ส.ข.จากประชาชนออกไปก่อน และให้มีการคัดสรรแต่งตั้งประชาคมเมืองแทน โดยผู้อำนวยการเขตเป็นผู้คัดสรร
“ทีม กทม. พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เป็นการตัดอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชนออกไป เราทีม กทม. พรรคเพื่อไทย จึงมีจุดยืนคัดค้านแนวคิดของ คสช. ในเรื่องนี้ และจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจของประชาชนคน กทม.” ที่ประชุม ระบุ.