ข่าวลึกปมลับ : ประชาธิปัตย์เลือดไหลไม่หยุด ส.ก.ทิ้งพรรค หนีแพ้เลือกตั้ง

“ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563 ตอนประชาธิปัตย์เลือดไหลไม่หยุด ส.ก.ทิ้งพรรค หนีแพ้เลือกตั้ง

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง "พรรคสีฟ้า-ประชาธิปัตย์" ตามข่าว จะมีการประชุมใหญ่สามัญวันอาทิตย์นี้ 19 ก.ค. นี้ ซึ่งต้องลุ้นว่า จะมี แรงกระเพื่อมภายในพรรค ถึงขั้นมี กรรมการบริหารพรรคลาออก ก่อนวันประชุมใหญ่

เพื่อทำให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ อย่างที่เคยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ หรือไม่

แต่สิ่งที่พอวางใจได้ว่าจะไม่มีรายการไล่หัวหน้าพรรค เอาแบบพรรคพลังประชารัฐ ก็เพราะความไม่พอใจสมาชิกประชาธิปัตย์บางกลุ่ม ที่ร้อนแรงมาก่อนหน้านี้ได้ระบายออกไปแล้วกับการปิดห้องคุยกันที่เกาะเสม็ด

เรียกว่า ไปเสม็ดเสร็จทุกราย เลยทำให้ แรงกระเพื่อมภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้เริ่มสงบนิ่งไปแล้ว

ผลการสัมมนาเกาะเสม็ด มีข้อสรุปสำคัญหลายเรื่องที่ผู้บริหารพรรครับไปดำเนินการ เช่นจะมีการประเมินผลการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคทุกคนภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้ถึงตอนนี้ ยังยากต่อการคาดการได้ว่า รัฐมนตรีของประชาธิปัตย์คนไหน เข้าข่าย อาจโดนปรับออก

คนที่เคยมีข่าวอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่าง คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมฯ หรือสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ก็ไม่แน่ อาจมีบางคนได้อยู่ต่อ

แต่ถ้าถึงขั้นจะไม่มีการปรับเปลี่ยนคนเป็นรัฐมนตรี กันเลย คนในพรรคบางกลุ่มที่จ้องรอเสียบอยู่ อาจไม่ยอม

สภาพทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ นับแต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาหนึ่งปี สถานการณ์ที่ทรุดลงหลังจากพ่ายการเลือกตั้ง ยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก เอาแค่ปัญหาภายในพรรค ก็พบว่า มีแต่สมาชิกพรรคลาออก

ไม่ใช่แค่ระดับแกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.ที่ทยอยลาออกกันไปหลายคนเช่น กรณ์ จาติกวนิช อดีตรมว.คลัง หัวหน้าพรรคกล้าปัจจุบัน-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม -นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลกสามสมัย แล้ว

ในส่วนของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างพวก อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือ ส.ก. ก็มีทยอยลาออกกันไปอย่างน่าใจหาย เพราะ ส.ก. ถือเป็นฐานเสียงใน กทม. ที่แข็งแกร่งมากของพรรค แต่ทำท่าว่าวันนี้เปลี่ยนสภาพแล้ว

อันเป็นผลสะเทือนจากการแพ้เลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุด ประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ในกรุงเทพ ทำเอาบรรดา ส.ก.ของประชาธิปัตย์ เกิดสภาวะระส่ำระสาย กันหลายคน เพราะประเมินแล้วว่า กระแสประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ที่ตกต่ำลง ถึงตอนนี้

แม้ประชาธิปัตย์จะเป็นพรรครัฐบาล แต่กระแสพรรคในภาพรวม ยังไม่ดีขึ้น หลังเวลานี้ ประชาธิปัตย์ มีคู่แข่งขันใหม่ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคก้าวไกล ในปัจจุบัน และยังมีคู่แข่งเก่า อย่าง พรรคเพื่อไทย

ตลอดจน ก็ยังจะมีพรรคการเมืองอื่น ๆที่ กำลังคิดวางแผนสร้างฐานเสียงในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเริ่มจาก สนามท้องถิ่น ที่ก็จะเข้ามาเป็นตัวแปรแบ่งคะแนนไปอีก อย่าง ภูมิใจไทย ของ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล

เลยทำให้ บรรดาอดีตส.ก.ประชาธิปัตย์ คิดหนักบางรายประเมินแล้วว่า อยู่ประชาธิปัตย์ต่อ อาจมีสิทธิ์ร่วง เหมือนพวกอดีตส.ส.กทม.ที่สอบตกระนาว จึงมีกระแสข่าวว่า อดีตส.ก.บางคน คิดทิ้งพรรค และบางรายถูกพลังประชารัฐ ติดต่อทาบทาม ไปแล้ว หากสัญญาณเลือกตั้งท้องถิ่นดังขึ้นก็คงจะรู้ใครเป็นใคร

จากเดิม ที่มีการเลือกตั้งส.ก.ครั้งสุดท้าย สมัยปี 2553 ที่มีส.ก.รวมทั้งสิ้น 61 คน ประชาธิปัตย์ กวาดไปร่วม 46 คน ทิ้งขาดเพื่อไทย ที่ได้ไป 14 คน แบบไม่เห็นฝุ่น

แต่สำหรับวันนี้ อดีตส.ก.ประชาธิปัตย์ทิ้งพรรคไปแล้ว และกำลังตัดสินใจก็ไม่ใช่น้อย ที่ย้ายออกจากพรรคไปบ้างแล้ว ก็มีเช่น นายประเสริฐ ทองนุ่น อดีตสก.บางกะปิ ที่ย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย

โดยรายนี้ถือเป็นเบอร์แข็งของประชาธิปัตย์ ก็ถึงขั้นวันมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระดับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่กทม.ของเพื่อไทย ลงมาต้อนรับเอง นอกจากนี้ก็ยังมี น.ส.รัชติกาล แก้วเกิดมี อดีต ส.ก. ประชาธิปัตย์ เขตสายไหม เป็นต้น

และที่เป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็กรณีของ นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือ เฮียล้าน อดีตส.ก.เขตจอมทอง ห้าสมัย สามีของ นางนันทพร วีรกุลสุนทร อดีต ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ และตายพิรกร ลูกชาย เป็นอดีตส. ก. เช่นกัน ครอบครัวนี้ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่กับพรรคสีส้ม พรรคก้าวไกล

หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยน คาดว่า น่าจะมีอดีตส.ก.ประชาธิปัตย์อีกส่วนหนึ่ง โบกมือลาออกเช่นกัน เพราะยิ่งใกล้เลือกตั้งท้องถิ่น พลังดูดจากบางพรรคการเมืองที่กุมความได้เปรียบทางการเมือง ก็ยิ่งรุนแรง

ย่อมทำให้ อดีตส.ก.ประชาธิปัตย์บางคน หวั่นไหว ถอดใจ ยอมทิ้งพรรค ไปกับทางเลือกที่ดีกว่า