กสม.เผย กต.แจงปมหาข้อเท็จจริง “วันเฉลิม” หายตัวระบุทางการกัมพูชาไม่ยืนยันเหตุการณ์อุ้มหาย เจ้าตัวได้รับการต่ออายุวีซ่าอยู่ถึงแค่ 31 ธ.ค. 60
วันนี้ (2 ก.ค.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสม.ได้รับหนังสือตอบกลับจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้วเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.กรณีที่ กสม.ได้ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายวันเฉลิม หรือตาร์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย ที่หน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า ทันทีที่ปรากฏข่าวทางสื่อว่านายวันเฉลิมถูกลักพาในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 18.00 น. วันที่ 5 มิ.ย.สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามตัวนายวันเฉลิม จากนั้น น.ส.สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม และตัวแทนของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ติดตามและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม รวมทั้งได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนายวันเฉลิมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ให้ น.ส.สิตานันท์และตัวแทนศูนย์ทนายความฯ ทราบ
ต่อมา รมว.ต่างประทศได้ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎรโดยได้แจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ชี้แจงต่อสภาว่า รมต.ไม่เคยได้รับแจ้งจากจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่านายวันเฉลิมเป็นบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อประเทศในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ และนายวันเฉลิมไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยตามนิยามของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพความเป็นอยู่และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของนายวันเฉลิมไม่ได้เข้าข่ายการเป็นผู้ลี้ภัยของ UNHCR โดยเชื่อว่า UNHCR รับทราบและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด โดย UNHCR ต้องรอการชี้แจงและข้อมูลจากทางการกัมพูชาเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า วันที่ 11 มิ.ย. เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้รับหนังสือจาก รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น นายวันเฉลิมมีประวัติการเดินทางเข้าออกกัมพูชาหลายครั้งระหว่างปี 2557-2558 ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ามากัมพูชาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 และได้รับการต่ออายุการตรวจลงตราถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และทางการกัมพูชายังไม่สามารถยืนยันเหตุการณ์นี้ได้เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้มีการแจ้งประเด็นนี้ให้กับ น.ส.สิตานันท์ พี่สาวนายวันเฉลิมทราบตามที่มีหนังสือร้องเรียนมา
นายวัสยังกล่าวด้วย หนังสือตอบกลับของปลัดกระทรวงการต่างประเทศยังระบุด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้ส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตามที่ น.ส.สิตานันท์ให้ข้อมูลแก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้ติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางการกัมพูชาอยู่เป็นระยะ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กสม.ยังคงจะติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหวังว่าจะได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อประสานการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่นายวันเฉลิมและครอบครัวต่อไป