xs
xsm
sm
md
lg

“อุตตม” ยันใช้งบฟื้นฟูจากโควิดรัดกุม โบ้ย รบ.ปี 56 ลดภาษีนิติบุคคล กระทบระยะยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุตตม สาวนายน รมว.คลัง (แฟ้มภาพ)
รมว.คลัง แจงใช้งบเตรียมพร้อมเยียวยา-ฟื้นฟู ศก. จากโควิด ทั่วโลกรุนแรงในรอบ 150 ปี ย้ำบริหารรัดกุมตามวินัยการเงินตามสถานการณ์ โทษ รบ.ปี 56 ลดภาษีนิติบุคคล กระทบการจัดเก็บภาษีระยะยาว พร้อมชม รบ.ประยุทธ์ จัดเก็บรายได้ตามเป้า

วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ประชุมสภา นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ชี้แจงกรณีที่ฝ่ายค้าน แสดงความกังวลถึงวิกฤตเศรษฐกิจจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบไปทั่วโลกมากที่สุดในรอบ 150 ปี และมีหลายประเทศได้รับผลกระทบมากกว่าไทย แต่ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเรื่องหลักคือ 1. ด้านสาธารณสุข ที่ไทยได้รับการยอมรับว่าสามารถจัดการได้ผลดี 2. เรื่องปากท้องความเป็นอยู่ประชาชน รัฐบาลดำเนินการเร่งเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการ รวมทั้งหมดกว่า 30 ล้านคน โดยมีมาตรการต่างๆ

นายอุตตม กล่าวว่า ที่กำลังเริ่มต่อไปในวันนี้ คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยหลายภาคส่วนมองว่า วิธีธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป โดยรัฐบาลจะเข้าไปช่วยผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก ในการปรับตัว เน้นแผนงานกิจกรรมระดับพื้นที่และชุมชน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ประชาชน เพราะเครื่องยนต์เศรษฐกิจหลักด้านการส่งออกและการท่องเที่ยวจากภายนอกต้องใช้เวลาฟื้นตัว จึงต้องประคับประคองในประเทศไปก่อน เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะได้มีความพร้อมก้าวไปข้างหน้า ซึ่งแผนงานช่วยผู้ประกอบการปรับตัวถือเป็นความท้าทายและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย แต่ประเทศไทยก็มีความได้เปรียบเรื่องที่ตั้งในภูมิภาค สถานการณ์โควิด-19 เป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผู้ประกอบการสามารถใช้โอกาสนี้ได้ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมทั้งที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ชีวภาพ อุตสากรรมสีเขียว อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และเริ่มระดับพื้นที่แล้วโดย ธ.ก.ส. ลงพื้นที่สร้างความเข้มแข็งชุมชน ยกระดับการเกษตรกับวิสาหกิจชุมชน พัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ สนับสนุนทายาทเกษตรกรที่กลับบ้านเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 60,000 ล้านบาท ให้ประกอบอาชีพได้ รวมถึงเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวและการส่งออก 40,000 ล้านบาท และมาตรการอื่นๆ ยืนยันว่ารัฐบาลเร่งดำเนินการไม่ล่าใช้ ต้องเร่งทำวันนี้เพื่อเตรียมพร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัว

สำหรับเสถียรภาพทางการคลัง รัฐบาลดูแลใกล้ชิด มีวินัยการเงินการคลังที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไป ส่วนการกู้ยืมเพื่อดูแลสถานการณ์โควิด-19 ก็ยืนยันว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิดรัดกุม ไม่กระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ รัฐบาลตระหนักดีว่าผลกระทบรุนแรงและไม่ได้นิ่งนอนใจ

นายอุตตม ยังกล่าวถึงความสามารถการจัดเก็บรายได้ ซึ่งในอดีตต่ำกว่าเป้า ว่า ที่ผ่านมา การประมาณการรายได้มีกลไกที่ใช้อยู่เป็นประจำ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนความกังวลว่าการจัดเก็บรายได้ภาษีอากรต่ำกว่าเป้าหมายนั้น เป็นเพราะรัฐบาลช่วงปี 2556 ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และต่อเนื่องมาจากผลกระทบราคาน้ำมันลดลงรุนแรงในปี 2558 และ 2559 ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีอากร ซึ่งรัฐบาลช่วงกลางปี 2557 ที่นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้เข้ากับเป้าหมายมากขึ้น ปิดช่องว่างให้ลดน้อยลง จนเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายในปี 2562 ซึ่งรัฐบาลยังมีรายได้จากส่วนอื่นๆ นอกจากภาษีอากรอีก เพื่อทดแทนรายได้ภาษีอากรที่ชาดหายไปบางช่วงเวลา ทำให้การจัดเก็บรายได้ในภาพรวมสูงกว่าเป้าหมายตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน


กำลังโหลดความคิดเห็น