“ส.ว.คำนูณ” เสนอ 4 ทางเลือกให้รัฐบาลตัดสินใจเรื่องปฏิรูปตำรวจ หลัง สตช.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา แต่มีข้อสังเกตเชิงไม่เห็นด้วย ชี้ ที่ควรทำมากที่สุด คือ ส่งร่างทั้ง 2 ฉบับ เข้าสู่สภา ในฐานะร่าง กม.เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก คำนูณ สิทธิสมาน สรุปเนื้อหาการอภิปรายประเด็นการปฏิรูปตำรวจ ในที่ประชุมวุฒิสภา วันเดียวกันนี้ มีใจความว่า 4 ทางเลือกของนายกรัฐมนตรี สารัตถะหลักของการใช้เวลาที่ได้รับจัดสรรมา 10 นาที อภิปรายประเด็นปฏิรูปตำรวจในวุฒิสภาใกล้เที่ยงวันนี้
ประมาณก่อนวันที่ 8 เมษายน 2563 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ (1) แจ้งยืนยันร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. ... และ (2) จัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง และข้อมูลรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายเกี่ยวกับต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายที่คาดว่าต้องใช้ในการปฏิบัติตามและบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายในระยะ 3 ปีแรก และอัตรากำลังที่จะต้องใช้ของร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ
วันที่ 15 มิถุนายน 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี “เห็นชอบในหลักการ” ของร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ พร้อมแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง 3 แผ่น แต่มี “ข้อสังเกต” ในเชิงยังไม่เห็นด้วยมารวม 12 แผ่น โดยเฉพาะข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. .... ว่าไม่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง. (2)
4 ทางเลือกของนายกรัฐมนตรี ทั้งในฐานะผู้นำของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ในการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียงลำดับจากที่ควรเลือกมากที่สุดไล่เรียงไปจนถึงน้อยที่สุดที่ไม่ควรเป็นทางเลือกเลย
1. ส่งร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญาพ.ศ. .... ทั้ง 2 ฉบับ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา ในฐานะร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270
2. ตั้งคณะกรรมการชุดที่ 4 ขึ้นทำหน้าที่พิจารณาปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับอีกครั้ง
3. ส่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการเพื่อปรับแก้แล้วส่งกลับคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
4. ชะลอการตัดสินใจออกไปก่อน
“เลือกทางใด ด้วยเหตุผลใด ควรต้องบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนและวุฒิสภาที่มีหน้าที่ในการติดตามเสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศให้ชัดเจนด้วยครับ” นายคำนูณ กล่าว