โฆษกรัฐบาลปัดนั่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ แค่มาคุมงานต่อ เมินเสียงยี้ ชี้เป็นเรื่องปกติการเมือง ปัด เกาเหลาทีม “สมคิด” ยันยังเคารพมากเหมือนเดิม พร้อมตอบอย่างมั่นใจไม่เสียเซลฟ์ถูกถล่มหลัง พปชร.ชูคุมเศรษฐกิจ
วันนี้ (29 มิ.ย.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับแต่งตั้งคุมทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นไปตามที่ ท่านอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐได้ขี้แจงเพิ่มเติมในการประชุมใหญ่พรรค เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในส่วนของภารกิจพรรคการเมือง ที่ทุกพรรคการเมืองมีภารกิจหลักคือการดูแลเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคท่านใหม่ของเรา ที่ได้กำชับว่า เรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญภายหลังเรื่องโควิด-19 คือ การช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอย่างไร เช่นเดียวกับที่ปรากฎในคลิปวิดีโอในที่ประชุมใหญ่ คือการทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีให้ได้
เลขาธิการพรรคได้พูดต่อเนื่องไปว่า ภารกิจหลักที่เราจะทำคือนโยบายที่จะออกมาช่วยพี่น้องประชาชน เพราะเรามี ส.ส.อยู่ในทุกภาคของประเทศไทย พวกเขาจะรับเรื่องเดือดร้อนของประชาชนมา มีทีมงานของพรรค คือทีมที่เคยทำงานกันอยู่เดิม และทีมที่เข้ามาเสริม ทุกพรรคการเมืองก็ทำแบบนี้ จากนั้นจะมีทีมง่ายวิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน เข้ามาเติมเต็มในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อออกเป็นนโยบาย
เมื่อถามว่า ตำแหน่งของนางนฤมลเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเลยหรือไม่ หรือเป็นหนึ่งในทีมงาน นางนฤมลบอกว่า ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมาตนอยู่ในทีมเศรษฐกิจมาอยู่แล้ว ในส่วนของนโยบาย ท่านเลขาธิการพรรคเลยบอกว่าให้ตนรับผิดชอบต่อเท่านั้นเอง ในลักษณะนั้น
“คงไม่ได้เรียกว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปอีก เพราะอันนี้เป็นเรื่องของการทำนโยบายของพรรคอย่างที่เล่ามาเมื่อสักครู่ เราคงจะเป็นเวทีหนึ่งที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และเราจะตกผลึกออกมาเป็นนโยบาย ผ่านพรรคการเมืองมาที่นายกรัฐมนตรี และ ครม.”
เมื่อถามว่าท้อใจหรือไม่ เมื่อยังไม่ทันจะทำหน้าที่ก็มีกระแสในทางลบออกมาก่อนแล้ว นางนฤมลกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่ต้องมีคำวิพากษ์วิจารณ์ อะไรที่นำมาปรับปรุงได้เราก็จะนำมาปรับปรุง
เมื่อถามว่า การรับตำแหน่งครั้งนี้เป็นการทำงานในส่วนของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นางนฤมลบอกว่า คนละส่วนกัน เพราะในส่วนของคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ตนไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ ได้และคงไม่เกี่ยวกัน
ถามต่อภายหลังการแต่งตั้งว่าเสียงวิจารณ์ทางลบออกมาเยอะ หัวหน้าพรรคได้ให้กำลังใจหรือไม่ นางนฤมลบอกว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย
“จากประสบการณ์จริง ๆ ของเราแต่เดิมเป็นอาจารย์สอนด้านการเงิน และนอกจากสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยก็ยังมีงานวิชาการที่ทำเราจนเป็นศาสตราจารย์ นอกจากงานเหล่านี้แล้ว ก็ได้เป็นที่ปรึกษาของตลาดหลักทรัพย์มากว่า 10 ปี และเป็นที่ปรึกษาให้กับธนาคารหลายแห่ง ในส่วนของตลาดเงิน และช่วยในเรื่องของภาคเอกชน และภาคธุรกิจในตำแหน่งกรรมการ ซึ่งเป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้เข้ามาช่วยงานในกระทรวงการคลัง ใครถามว่าเราทำอะไรมาบ้างก็คงตอบได้ประมาณนี้ เราก็มีความรู้ในเรื่องของตลาดทุน ตลาดเงิน งานวิจัยด้านนโยบายที่เคยช่วยมา อย่างที่กระทรวงการคลังที่ทราบประวัติกันดี” นางนฤมลระบุ
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับอาจารย์สมคิดเกี่ยวกับการทำงานในเรื่องนี้ และการนำเสนอนยบายจากพรรคสู่รัฐบาลหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ท่านสมคิดไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ที่ผ่านมาท่านเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ซึ่งการนำเสนอเรื่องต่าง ๆ คงนำเสนอผ่านพรรค แล้วแต่ว่าทางพรรคจะนำเสนอไปช่องทางใด เหมือนทุกพรรคที่มีเวทีการนำเสนอผ่านพี่น้องประชาชน ผ่านสื่อมวลชนว่าเราจะทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มการเมืองอีก แนวทางนโยบายว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยพี่น้องประชาชน
เมื่อถามถึงกระแส่ข่าวระหองระแหงกันระหว่างทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด กับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมลระบุว่าว่า ไม่ได้มีปัญหากัน ตนยังทักทายและให้ความเคารพท่านอย่างมากเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไรกัน เพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจทำให้ทุกคนตีความไปในลักษณะนั้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเตรียมขยับขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจ นางนฤมลกล่าวว่า แล้วแต่ท่านนายกฯ จะไว้ใจ ตนยังไม่เคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวกับนายกฯ เลย คุยแต่เรื่องงาน อย่างเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้รับมอบหมายงานเกี่ยวกับงานคมนาคม ท่านจะสนใจแต่เรื่องงานประสัมพันธ์ว่าทำอย่างไรให้เป็นรูปธรรม แต่ยังไม่เคยคุยเรื่อง ครม.
เมื่อถามถึงความตั้งใจในการเข้ามาทำงานการเมือง นางนฤมลกล่าวว่า ต้องการทำงานให้พี่น้องประชาชน นั่นคือเป้าหมายสำคัญ และไม่ได้คาดหวังถึงตำแหน่งตั้งแต่เดินเข้ามาในเส้นทางการเมือง
เมื่อถามว่าจากเสียงวิจารณ์ทำให้เสียเซลฟ์หรือไม่ นางนฤมลยิ้มพร้อมกับกล่าวอย่างมั่นใจว่า "ไม่เสียเซลฟ์"
เมื่อถามว่าเสียงวิจารณ์ถึงขนาดมองว่าแทงข้างหลังทีมนายสมคิด นางนฤมลกล่าวว่า "ไม่มี" แต่จะเป็นการตีความกันไปเอง เมื่อถามว่าหลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้คุยกับนายสมคิดบ้างหรือยัง นางนฤมลกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เจอท่านยังทักทายและให้ความเคารพ แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงในพรรคจึงทำให้ถูกตีความว่าขัดแย้ง