xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกรัฐมนตรี สั่งติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค เสริมสร้างโครงข่ายคมนาคมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน

วันนี้ (27 มิ.ย.) ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าโครงการที่ไทยดำเนินการร่วมกับมิตรประเทศเพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค และชื่นชมแต่ละโครงการมีพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งเป็นผลงานต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลนีตั้งใจเร่งดำเนินการเพื่อให้เห็นผลสำเร็จ โดยมีรายละเอียดการพัฒนา ดังนี้

งานก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)

1.) ได้รับงบก่อสร้างปี 63 แบ่งเป็น 3 สัญญาก่อสร้าง สัญญา 1 งานถนนฝั่งไทย ค่างาน 831 ล้านบาท ผ่านการประกวดราคา ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญา ก.ค. 63 สัญญา 2 งานด่านฝั่งไทยรวมถนนภายใน ค่างาน 883 ล้านบาท ผ่านการประกวดราคา ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญา ก.ค. 63 สัญญา 3 งานสะพาน ไทย-ลาว ค่างาน 1,263 ล้านบาท (ไทย 787 ล้านบาท ลาว 476 ล้านบาท โดยลาวกู้เงิน NEDA จากไทย) คาดว่าจะประกาศประกวดราคา ภายใน ก.ค. 63 และคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายใน ส.ค. 63

2.) ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี (ผูกพันงบประมาณปี 63-65) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย
ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 60 โดยมีก้าวหน้าใน 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่

1. ส่วนงานโยธา แบ่งออกเป็น 14 สัญญา โดยกำลังดำเนินการก่อสร้าง 2 สัญญา อยู่ระหว่างรอลงนาม 7 สัญญา อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อนุมัติสั่งจ้าง 3 สัญญา จัดเตรียมเอกสารประกวดราคา 1 สัญญา และอยู่ระหว่างพิจารณาเอกสารประกวดราคา 1 สัญญา

2. ส่วนผลการจัดทำร่างสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมถึงจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาร่วมกันจนได้ข้อยุติในส่วนของร่างสัญญา 2.3 และเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 63 ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. ได้เห็นชอบร่วมกันในหลักการร่างสัญญา 2.3 โดยเมื่อผ่านขั้นตอนตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามในสัญญาดังกล่าวได้ไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้โครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคเหล่านี้ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างโครงข่ายเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน สนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และภูมิภาค ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น