กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงร้องจีนเพิ่มความโปร่งใสให้ข้อมูลน้ำในเขื่อนรับมือน้ำท่วม-น้ำแล้ง

เอเอฟพี - จีนถูกกดดันให้แสดงความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการเขื่อนของประเทศในแม่น้ำโขง หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงตอนล่างลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนหลายล้านคน

ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ล้วนต้องต่อสู้กับภัยแล้งรุนแรงเมื่อปีก่อน เมื่อกระแสน้ำของแม่น้ำลดลงในระดับต่ำสุด จนทำให้เห็นหินก้นแม่น้ำ ทำให้ปลาตาย และคุกคามวิถีชีวิตคนนับล้าน

แต่เขื่อนบนแม่น้ำโขงในเขตแดนจีนกลับมีน้ำไหลตามธรรมชาติสูงกว่าค่าเฉลี่ยในเวลาเดียวกัน ตามข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดยองค์กร Eyes on Earth เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ระบุว่าระดับน้ำที่ลดต่ำอย่างรุนแรงแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นว่าจีนต้องเผยแพร่ข้อมูลเขื่อน เพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโขงสามารถคาดการณ์เงื่อนไขได้ โดยคณะได้เรียกร้องข้อมูลตลอดทั้งปีสำหรับการตรวจสอบและรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งอย่างมีประสิทธิภาพ

แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำหน้าที่เป็นเส้นชีวิตของผู้คนกว่า 60 ล้านคน

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเป็นคณะที่ปรึกษาด้านเขื่อนสำหรับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง แต่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีความสามารถที่จะหยุดยั้งโครงการบนแม่น้ำโขงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและธุรกิจขนาดใหญ่

จีนสร้างเขื่อน 11 แห่งบนแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ขณะที่ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง รวมทั้งลาว มีเขื่อนไฟฟ้าหลายสิบแห่งที่สร้างขึ้นแล้วและอยู่ในแผนก่อสร้าง โดยหลายแห่งได้รับทุนจากบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน

เพียรพร ดีเทศน์ จากองค์กรแม่น้ำนานาชาติ กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นทางการเมืองที่จริงใจเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบรรเทาความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของเขื่อน”

ปักกิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการไหลของน้ำในระดับต่ำที่เกิดขึ้น และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้กล่าวเมื่อปีก่อนว่า จีนได้ปล่อยน้ำมากขึ้นตามคำร้องขอของไทยที่ประสบกับภาวะภัยแล้ง.