xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ”เงิบ! “พิภพ”ยกข้อเท็จจริงโต้คดีพันธมิตรฯ ไม่เงียบ หลายคดีสิ้นสุดแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(แฟ้มภาพ)
“พิภพ”โพสต์โต้ “สุชาติ”กล่าวหาคดีพันธมิตรฯ เงียบเป็น Sound of Silence แจงคดีชุมนุมในทำเนียบ แกนนำรับโทษตามคำพิพากษาแล้วยังเหลือคดีแพ่งถูกเรียกค่าเสียหายอีก 10 ล้านบาท ส่วนกรณีสนามบิน คดีแพ่งสิ้นสุดแล้วแกนนำกำลังถูกบังคับคดีจ่ายค่าเสียหายเกือบพันล้านบาท ส่วนคดีอาญาฐานก่อการร้ายอยู่ระหว่างสืบพยาน 90 ปาก ด้านคดีบุกเอ็นบีที ถูกจำคุกจนพ้นโทษออกมาเกือบหมดแล้ว ขณะที่คดีที่พันธมิตรฯ ถูกกระทำ ทั้งคดี 7 ตุลาฯ ผู้ชุมนุมในทำเนียบถูกระเบิดเอ็ม 79 เสียชีวิต “สนธิ”ถูกลอบยิง 200 นัด กลับยังจับตัวคนร้ายไม่ได้แม้แต่คดีเดียว

ภายหลังจากที่วานนี้(26 มิ.ย) ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษายืนจำคุกแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง คนละ 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในคดีก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อปี 2550 นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ แนวร่วมคนเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาเชิงประชดประชันว่าคดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็น Sound of Silence หรือ มีแต่ความเงียบ ไม่มีความคืบหน้า ต่อมา นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Pibhop Dhongchai ชี้แจงว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม.ถูกศาลฏีกาพิพากษาลงโทษ 5 แกนนำ 1 ผู้ประสานงานให้จำคุกคนละ 8 เดือน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ในคดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วัน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปีกว่า ศาลอุทธรณ์ ลดโทษเหลือ 8 เดือน ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกคนละ 8 เดือน และขณะนี้ ทางทำเนียบรัฐบาลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอีกกว่า 10 ล้านบาท ต่อแกนนำและผู้ประสานงาน คดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีที่ศาลแพ่ง

ส่วนคดีสนามบิน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้ายซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์จำเลยในคดีนี้มีกว่า 90 คน ส่วนคดีแพ่ง 2 คดี มีคดีการท่าฯ และหอบังคับการบิน คดีสิ้นสุดที่ศาลฏีกาไปแล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยเกือบพันล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ทั้งแกนนำ พธม.ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อยู่

และที่มวลชนบุก NBT ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลืออีกสองสามคนที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และก็ยังมีบางคนที่ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร

ส่วนตัวผมเองและพรรคพวกนั้น ก็อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนกบฏ ในคดีการชุมนุม คปท.แต่ถูกฟ้องร่วมในคดีของ กปปส.ที่โดนข้อหากบฏ

ในระหว่างการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มวลชน พธม.ถูกลอบยิงด้วย M 79 เกือบทุกคืน ทำให้มีคนตายไป 10 คนและบาดเจ็บพันกว่าคน พิการ 4 คน

นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ(แฟ้มภาพ)
นอกจากนี้มวลชน พธม.ยังถูกตำรวจล้อมปราบที่บริเวณหน้ารัฐสภาฯ ตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงหัวค่ำในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อย่างโหดเหี้ยม โดยผู้สั่งการของฝ่ายรัฐบาลที่ถูก ป.ป.ช.ฟ้องร้อง ถูกศาลยกฟ้องทั้ง 5 คน

ในสมัยนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.ยังถูกลอบยิงตอนเช้ามืด กลางกรุงเทพมหานคร ด้วยกระสุนสองร้อยกว่านัดพร้อมกระสุน M 79 ทำให้บาดเจ็บสาหัสร่วมกับคนขับรถ จนบัดนี้ยังจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว

นี่ยังไม่นับเหตุการณ์การชุมนุมของ คปท.และ กปปส. ที่ถูกลอบยิงทั้งกระสุนปืนและ M 79 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเช่นเดียวกับการชุมนุมของ พธม. ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

จึงรายงานมาเพื่อทราบเพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริงของประชาชนทุกหมู่เหล่า

ด้านนางสาวพวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Puangtip Boonsanong ว่า “Sound of silence คิดๆ ดูอีกทีก็จริง ในวันที่พี่กูน้องกูเกือบร้อยคนกับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือต้องถูกใส่กุญแจมือเดินเรียงแถวขึ้นรถเรือนจำ ก็ไม่เห็นมีใครแหกปากเรียกร้องหาความยุติธรรมอะไร ทุกคนเงียบ เดินเชิดหน้า อย่างมีเกียรติ เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ในวันที่พี่กูน้องกูต้องสื่อสารผ่านทางลูกกรง ก็ไม่ได้โวยวายขอความเห็นใจจากใคร วันที่ออกจากเรือนจำ พี่น้องกูบางคนตกงาน เมียทิ้ง และมีคนที่พ้นโทษออกมาแล้วเสียชีวิตเพราะป่วยในคุก มีใครได้ยินเสียงเขาเหล่านั้นบ้าง พี่น้องเสื้อแดงหลายคนก็เป็นเช่นกัน Sound of silence”


กำลังโหลดความคิดเห็น