“สาทิตย์” ชี้รัฐให้ ป.ป.ท.สอบใช้เงินกู้ 4 แสนล้านยังไม่พอ เหตุทำงานเชิงรับ แนะให้ กมธ.เงินกู้ช่วยเสริมงานตรวจสอบ สร้างกลไกเชื่อมข้อมูลตรงกับ ครม.ยก โครงการมิยาซาว่าสมัยรัฐบาลชวน พบโกงยกเลิกทันที
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณา ติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. เป็นแม่งานในการตรวจสอบ โครงการภายใต้เงินกู้ 4 แสนล้านบาท โดยมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เป็นตัวขับเคลื่อนว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยเฉพาะการที่จะเสนอให้มีการเปิดเผยข้อมูลโครงการให้ติดตามตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด แต่ต้องดูวิธีการเปิดเผยด้วยว่าจะละเอียดแค่ไหนซึ่งควรจะต้องมีข้อมูลไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างและการประมูลด้วย อย่างไรก็ตาม กลไกนี้ยังเป็นไปในลักษณะเฝ้าระวังเชิงรับ ต้องรอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วจึงตรวจสอบ ทำให้อาจมีขาดตกบกพร่องได้จึงต้องมีกลไกอื่นร่วมตรวจสอบด้วย โดยในส่วนของกรรมาธิการจะดำเนินการใน 2 เรื่อง คือ ตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนการอนุมัติก่อนที่จะเข้าสู่ ครม.ไปจนถึงหลัง ครม.อนุมัติแล้วและในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง จะให้มีตัวแทนหน่วยงานตรวจสอบทั้ง สตง.และ ป.ป.ช.มาร่วมด้วย หากพบความไม่ชอบมาพากลสามารถตรวจสอบได้ทันที โดยการดำเนินการในส่วนนี้จะไม่ซ้ำซ้อนกับ ศอตช.
“ผมจะเสนอให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะประธานกรรมาธิการ ไปหารือกับรัฐบาลเพื่อตั้งรัฐมนตรี 1 คนเป็นตัวแทนในการเชื่อมต่อการทำงานระหว่างรัฐบาลกับกรรมาธิการ เหมือนที่เคยมีการดำเนินการในยุครัฐบาลชวน 2 มีตัวอย่างเรื่องโครงการมิยาซาว่าในบางพื้นที่พบความไม่ชอบมาพากล เมื่อแจ้งเรื่องไปยัง ครม.ก็มีการยกเลิกทันที ถือเป็นการตรวจสอบและทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อให้มีการป้องปรามและจับทุจริตได้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้เกิดการสูญเสียงบประมาณไปกับการโกงกิน” นายสาทิตย์กล่าว
