xs
xsm
sm
md
lg

ยอดขอใช้เงินกู้แก้พิษโควิดพุ่ง 1.44 ล้านล้าน สารพัดหน่วยแห่ขอกว่า 4.6 หมื่นโครงการ “ทำถนน” เยอะสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอดข้อเสนอผ่านทีมกลั่นกรองเงินกู้ 4 แสนล้าน ทะลุ 46,411 โครงการ สารพัดหน่วยงานขอรับจัดสรรงบสู้โควิด-19 สูงเกินเงินกู้ รวมกว่า 1,448,474 ล้าน แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนพุ่ง 44,960 โครงการ ขอ 513,793 ล้าน ส่วนยอดขอเงิน “ซ่อมสร้างถนน” ยังสูงสุด 12,340 โครงการ ด้านเหล่าทัพสังกัดกระทรวงกลาโหม ยื่นขอใช้เงินด้วย 10 โครงการ สูงสุดร่วม อปท.บริหารจัดการน้ำ จ.เชียงราย 745 ล้าน ด้านหน่วยทหาร นสศ.ลพบุรี ยื่นขอด้วย 74 ล้าน

วันนี้ (24 มิ.ย.) มีรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์ “ไทยมี” เผยแพร่ตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 23 มิ.ย. 2563 ทุกแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 400,000 ล้านบาท

โดยมีข้อเสนอโครงการในรอบที่ 1 รวมทุกแผนงาน จำนวน 46,411 ข้อเสนอ ขอรับจัดสรรงบ วงเงินกว่า 1,448,474 ล้านบาท

แผนงานที่ 3.1 แผนงานลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จำนวน 160 โครงการ ขอรับจัดสรร 277,490 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.2%

แผนงานที่ 3.2 แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน มีข้อเสนอโครงการ จำนวน 44,960 โครงการ ขอรับจัดสรร 513,793 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.5%

แผนงานที่ 3.4 แผนงานสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนกระบวนการผลิต จำนวน 1,264 โครงการ ขอรับจัดสรร 612,897 ล้านบาท คิดเป็น 42.3%

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ยังเปิดเผยตัวเลขโครงการที่ “สอดคล้องกับหลายแผนงาน” จำนวน 27 โครงการ วงเงินจัดสรร 44,293 ล้านบาท ขณะที่ ข้อ 3.3 แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคครัวเรือนและเอกชน นโยบายเกี่ยวกับท่องเที่ยวอยู่ระหว่างดำเนินการ

ขณะที่เฉพาะโครงการที่ขึ้นชื่อว่า “ถนน” ล่าสุดมีการตั้งโครงการเพิ่มขึ้นรวม 12,340 โครงการ จากจำนวนทั้งหมด 46,411 ข้อเสนอ ทั้งการสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุง พัฒนาเส้นทางขนส่ง ลาดยาง พัฒนาสองข้างทาง

ส่วนโครงการที่หน่วยงานใน 3 เหล่าทัพ สังกัดกระทรวงกลาโหมเสนอเข้ามา พบว่ามีถึง 10 โครงการ หลังจากเสนอเข้ามาในช่วงแรก (5 มิ.ย.) เพียง 3 โครงการ ทั้งหมดเสนอในแผนงานที่ 3.2 ประกอบด้วย ปรับปรุงภูมิทัศน์สายไฟฟ้า และสายสื่อสารเป็นระบบท่อร้อยสายลงดินในพื้นที่ตลาดสัตหีบ ขอรับจัดสรร 80,000,000 บาท เสนอโดยฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม ในพื้นที่ จ.ชลบุรี

โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร “โครงการทหารพันธุ์ดี” ขอรับจัดสรร 1,700,000 บาท เสนอโดยค่ายเม็งรายมหาราช มณฑลทหารบกที่ 37 จ.เชียงราย, พัฒนาปรับปรุงทัศนียภาพ ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ และฐานกรุงเทพ ขอรับจัดสรร 1,800,000 บาท เสนอโดย กองพลทหารม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์

โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการจังหวัดเชียงราย ขอรับจัดสรร 745,813,089 บาท เสนอโดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.เชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ในพื้นที่ จ.เชียงราย

ยังพบว่าเป็นโครงการที่เสนอ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ขอรวมวงเงิน 74,426,400 บาท ประกอบด้วย 1. ปรับปรุงร้านสมาคมแม่บ้าน นสศ. ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ขอรับจัดสรร 2,000,000 บาท 2. ปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน นสศ. ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี ขอรับจัดสรร 18,736,400 บาท 3. ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี ขอรับจัดสรร 23,390,000 บาท 4. ปรับปรุงสวนสัตว์ลพบุรี นสศ. ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ขอรับจัดสรร 26,100,000 บาท และ 5.ขุดลอกบ่อกักเก็บน้ำธรรมชาติ รพศ.3 รอ. ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี ขอรับจัดสรร 4,200,000 บาท

และโครงการอาคารส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยว ขอรับจัดสรร 10,000,000 บาท เสนอโดยกองทัพบก กระทรวงกลาโหม พื้นที่ จ.ตรัง

เมื่อวานนี้ ข่าวแจกสภาพัฒน์เพิ่งรายงานตัวเลขอ้าง นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2563 มีข้อเสนอโครงการในรอบที่ 1 รวมทุกแผนงาน จำนวน 43,851 ข้อเสนอ วงเงินกว่า 1.36 ล้านล้านบาท ซึ่งแผนงาน 3.2 มีข้อเสนอโครงการมากที่สุด จำนวน 42,405 โครงการ ตามมาด้วย แผนงาน 3.4 จำนวน 1,259 โครงการ ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น