xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษก พปชร.ตอก “พิธา” เรียกร้องเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สวนทางองค์การอนามัยโลก ซัดแอบแฝงการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ตอกกลับ “พิธา” เรียกร้องเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สวนทางองค์การอนามัยโลก ซัดแอบแฝงการเมือง ตามใบสั่ง หวังจัดอีเวนต์สร้างความขัดแย้ง

วันนี้ (24 มิ.ย.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กอ้างประชาชนต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกล่าวหาว่าการคงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นข้ออ้างของรัฐบาลเพื่อยื้อเวลาและสะท้อนการเสพติดอำนาจว่า เป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย ทั้งที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่นายพิธากลับอ้างประชาชนมาเร่งรัดจนน่าสงสัยว่าการเรียกร้องดังกล่าวนี้มีผลประโยชน์ทางการเมืองใดแอบแฝงหรือไม่ หรือเป็นการทำตามใบสั่งของกลุ่มคณะใดที่ต้องการเคลื่อนไหวสร้างอีเวนต์ทางการเมืองเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง และความไม่สงบในประเทศในช่วงเวลานี้

“ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 119 คนและอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทั่วประเทศลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งด้านปัจจัย 4 และการควบคุมการติดเชื้ออย่างจริงจัง เราได้รับฟังความคิดเห็นที่แท้จริงจากประชาชน ซึ่งไม่พบว่าได้รับความเดือดร้อนใดๆ จากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่จะได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตจากมาตรการเพื่อควบคุมโรคที่ออกมาสอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อ ซึ่งประชาชนเข้าใจและให้ความร่วมมืออย่างดีจนประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี ติดอันดับต้นของโรคและได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ ผลกระทบต่างๆ ของประชาชนก็ได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาและเริ่มมีการผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครเดือดร้อนและต้องการให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เสียงเรียกร้องของนายพิธาจึงขัดแย้งกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนหรือเปล่า” น.ส.ทิพานันกล่าว

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าวอีกว่า นายพิธาควรหยุดใส่ร้ายรัฐบาลอย่างไม่มีหลักฐานว่า รัฐบาลเสพติดอำนาจจึงต้องการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ เพราะในความเป็นจริงนั้น รัฐบาล ศบค. แพทย์ และทีมสาธารณสุข ได้ประชุมร่วมกันตลอดเพื่อนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ช่วยสร้างระบบบริหารจัดการเชิงบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและสร้างมาตรฐานกลางด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดทั่วประเทศ และแม้สถานการณ์ในประเทศไทยจะดีขึ้นมาก ปลอดผู้ติดเชื้อในประเทศ 30 วันแล้วแต่ก็ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง เพราะสถานการณ์ทั่วโลกยังไม่ได้ดีขึ้น พบการระบาดใหม่ระลอก 2 ในหลายประเทศ จนองค์การอนามัยโลกแถลงเรียกร้องร้องให้ประเทศต่างๆกลับมาเข้มงวดกับมาตรการต่อต้านโควิด-19 ดังนั้น การพิจารณามาตรการผ่อนคลายต่างๆ รวมถึงยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และมาตรการควบคุมโรค ข้อเรียกร้องของนายพิธาจึงสวนทางกับองค์การอนามัยโลก หากมีการทำตามข้อเรียกร้องที่ไม่เหมาะสมของนายพิธาแล้วเกิดการแพร่ระบาดระลอกสอง นายพิธาก็คงไม่มารับผิดชอบและไม่มีความรู้ความสามารถที่จะเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

“นายพิธาควรหยุดเรียกร้องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่ได้ลงพื้นที่ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนจริงๆ เมื่อ “ติดกระดุมครบทุกเม็ด” แล้ว ควรหยิบหน้ากากอนามัย ก้าวให้ไกลออกจากตัวบ้านเพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน และฟังเสียงความต้องการที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาของสังคมว่าการเรียกร้องดังกล่าวแฝงวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือเป็นการทำตามใบสั่งของกลุ่มคณะเคลื่อนไหวทางการเมืองใดหรือไม่” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น