xs
xsm
sm
md
lg

ทีมกลั่นกรองเงินกู้ รับสารพัดหน่วยงานรัฐขอเกินแล้ว 3 เท่า! ยอดขอใช้ทะลุ 1.36 ล้านล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทีมกลั่นกรองเงินกู้สู้โควิด-19 เตรียมแถลงความก้าวหน้า หลังกลั่นกรองผ่านแล้ว 10 วัน พร้อมวิเคราะห์แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม พบสารพัดหน่วยงานชงผ่านทุกแผนงาน 43,851 ข้อเสนอ ขอรับจัดสรรงบฯ กว่า 1.36 ล้านล้านบาท เฉพาะแผนงาน 3.2 มีข้อเสนอ 42,405 โครงการมากสุด แถมมากกว่าเงินกู้ถึง 3 เท่า เชื่อโรดแมปเงินกู้ทันสนองรัฐทุกขั้นตอน

วันนี้ (23 มิ.ย.) มีรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ สภาพัฒน์เตรียมแถลงชี้แจงความก้าวหน้าของการวิเคราะห์โครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามแผนงานหรือโครงการที่ 3 โดยเฉพาะ แผนงานที่ 3.2 ฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชน ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 400,000 ล้านบาท

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า สภาพัฒน์จะได้รายงานความคืบหน้าการวิเคราะห์และกลั่นกรองโครงการ เนื่องจากข้อเสนอโครงการมีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้การวิเคราะห์โครงการของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ล่าช้าไปกว่ากำหนดอยู่บ้าง แต่ยังเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอโครงการที่ผ่านการวิเคราะห์ของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ผ่านทางระบบ ThaiME (http://thaime.nesdc.go.th)

อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ยังเชื่อว่าจะสามารถวิเคราะห์เสร็จในเบื้องต้น ภายในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ และสามารถส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้เพื่อพิจารณาได้ทันในวันที่ 1 ก.ค. 2563 เพื่อนำส่งโครงการที่ผ่านการพิจารณาให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามกำหนดไว้ในวันพุธที่ 8 ก.ค. 2563 นี้

คณะทำงานของสภาพัฒน์ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ ประกอบด้วยนักวิชาการผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญจากหลายสาขา ได้วิเคราะห์โครงการโดยยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี คือการใช้เงินกู้นี้จะต้องตรงตามวัตถุประสงค์ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั่วถึงเที่ยงธรรม เน้นความคุ้มค่าและมีมาตรการป้องกันการทุจริต

“จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22 มิ.ย. 2563 มีข้อเสนอโครงการในรอบที่ 1 รวมทุกแผนงาน จำนวน 43,851 ข้อเสนอ ขอรับจัดสรรงบ วงเงินกว่า 1.36 ล้านล้านบาท เฉพาะแผนงานที่ 3.2 มีข้อเสนอโครงการมากที่สุด จำนวน 42,405 โครงการ ตามมาด้วย แผนงาน 3.1 จำนวน 1,259 โครงการ”

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเว็บไซต์ “ไทยมี” ณ วันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งวันสรุปโครงการก่อน “รอบที่ 1” เสนอมา 34,263 โครงการ ขอรับจัดสรรงบฯ 841,269 ล้านบาท เป็นแผนงานที่ 3.1 เสนอ 164 โครงการ ขอรับ 284,302 ล้านบาท แผนงานที่ 3.2 เสนอ 33,798 โครงการ 465,149 ล้านบาท ส่วนแผนงานที่ 3.4 เสนอมาแล้ว 301 โครงการ ขอรับ 91,942 ล้านบาท

“พบว่าผ่านมา 10 วัน หน่วยงานเสนอโครงการเกินวงเงินแล้ว โดยเฉพาะแผนงานที่ 3.2 มากกว่าเงินกู้ถึง 3 เท่า”

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.มหาดไทย เพิ่งลงนามเห็นชอบ 753 โครงการ วงเงินรวม 6,504,504,820 บาท ให้จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่จังหวัด ที่ได้จัดทำบัญชีสรุป/รายละเอียดการจัดขอรับงบประมาณต่อโครงการฉบับสมบูรณ์ และเสนอแบบฟอร์มการประเมินความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลังผ่านความเห็นของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และหน่วยงานต้นสังกัด

ทั้งนี้ 76 จังหวัด ขอเป็นหน่วยงานรับงบประมาณ 463 โครงการ วงเงิน 4,802,837,523 บาท ขณะที่ ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัด ขอรับงบประมาณผ่าน(ส่วนกลาง) ที่ รมว.เจ้าสังกัดเห็นชอบจำนวน 290 โครงการ วงเงิน 1,701,667,297 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น