xs
xsm
sm
md
lg

"เชาว์" ปูด กทม.อมเงินครูอาสาฯ แถม มท.เบี้ยวไม่จัดงบโครงการอาหารกลางวัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตโฆษกปชป. แฉ กทม.อมเงินครูอาสาศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ไม่จ่าย 38 % ตามสัญญา แถม มท.ทำโครงการอาหารกลางวัน แต่ไม่จัดงบให้ ทำครูอาสาเดือดร้อนหนัก กู้หนี้นอกระบบมาสำรองจ่าย อัดกินภาษีแผ่นดินกลับเบียดบังปชช.

วันนี้ (15 มิ.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตามที่ตนได้เคยสะท้อนปัญหาครูอาสาศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในกทม. ที่เดือดร้อนจากกรณีศูนย์ฯปิดตัวลงตามคำสั่งของกทม. โดยกทม.จะจ่ายเงินเดือนให้ครู 38 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 62 เปอร์เซนต์ รับจากประกันสังคม ปัจจุบันครูอาสาได้รับเงินจากประกันสังคมแล้ว แต่กทม.เงียบกริบยังไร้วี่แวว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ ขณะเดียวกันเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด กระทรวงมหาดไทยเหมือนจะหวังดีจัดหางานให้ทำโดยให้ครูจัดทำอาหารกลางวันนำไปส่งให้เด็กถึงบ้าน เพื่อให้ครูมีงานทำจะได้เบิกเงินจากกทม.ได้แต่ปรากฏว่ามีนโยบายแนวปฏิบัติมาเป็นหน้ากระดาษ แต่ไม่มี "งบประมาณ” ในการจัดซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารให้เด็ก โดยผลักภาระให้ครูอาสาต้องควักเงินตัวเองสำรองจ่ายไปก่อน

“เงินที่ได้ 62 เปอร์เซนต์ จากประกันสังคมแทบจะไม่พอยาไส้อยู่แล้ว ต้องดิ้นรนหาเงินมาซื้อวัตถุดิบประกอบอาหารให้เด็ก เพื่อให้ตัวเองมีงานทำมีเงินเดือน แถมเงินที่หวังให้กทม.จ่ายส่วนที่ยังขาดอีก 38 เปอร์เซนต์ ก็ยังไม่ได้ เท่ากับเสียสองเด้ง เงินเดิมตามสิทธิยังไม่ได้ ต้องเสียเงินที่มีน้อยนิดไปกับโครงการของกระทรวงมหาดไทยที่มีมาแต่กระดาษ แต่ไม่มีเงินมาให้ จนครูอาสาจำนวนไม่น้อยต้องไปกู้หนี้ยืมสินออกไปก่อน หาไม่ได้ต้องระดมขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตอาสาช่วยสนับสนุนข้าวสาร ไข่ไก่ อุปกรณ์เครื่องปรุงต่าง ๆ เพื่อให้โครงการเดินได้ตามคำสั่งนายที่นั่งในห้องแอร์กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนอย่างสุขสบาย แต่กลับเบียดบังประชาชนกำหนดนโยบายเอาแต่ผลงาน ผลักภาระให้ครูอาสาดิ้นรนหาเงินกันเองอย่างไม่ละอายใจกันบ้างหรือ จึงขอให้กระทรวงมหาดไทย ประสานกับกทม.จัดงบประมาณมาให้ครูอาสาทันที อย่าปล่อยให้เขาต้องไปเป็นหนี้นอกระบบจากความล้มเหลวในการบริหารของพวกท่าน”

นายเชาว์กล่าวว่า ปัญหาเรื่องศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของ กทม. ไม่ใช่มีแค่เรื่องความเดือดร้อนของครูอาสาเท่านั้น แต่การบริหารจัดการซึ่งควรเป็นสวัสดิการให้กับชาวชุมชนที่มีรายได้น้อยใช้บริการฟรี ในความเป็นจริงไม่ว่าค่าน้ำค่าไฟก็ให้ชุมชนรับผิดชอบหากันเอง ค่าอาหารกลางวันก็ให้มาแค่ 20 บาทต่อหัวต่อคนจะพอยาใส้ได้อย่างไร ผลักภาระผู้ปกครองที่หาเช้ากินค่ำต้องจุนเจือส่วนที่ขาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเรียกร้องให้ กทม.ควรทบทวนเรื่องนี้ให้เป็นสวัสดิการที่ชาวชุมชนไม่ต้องเป็นภาระรวมถึงต้องพัฒนาศูนยณที่อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เอื้ออำนวยต่อพัฒนาการของเด็กไปเสียทุกอย่าง ไม่สมกับเป็นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร

“เลิกกันเสียทีกับการเบียดบังภาษี ผักชีโรยหน้า เพราะนี่คืออนาคตชาติ ขอการพัฒนาศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนแบบจริงจัง ให้เด็กชาวชุมชนที่ด้อยโอกาสได้รับสวัสดิการที่ดีขึ้น ให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครูอาสาซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลเด็กเหมือนพ่อแม่คนที่สอง ไม่แร้นแค้นแค่คำว่า”อาสา”แต่ต้องมีหลักประกันความมั่นคงในอาชีพเทียบเท่า”ครู”หน่วยงานหนึ่งของกทม.ด้วย”นายเชาว์ระบุ




กำลังโหลดความคิดเห็น