xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” ชี้ปมกรรมการสรรหาสองชุด เห็นต่าง อดีต สนช.นั่งองค์กรอิสระ สะท้อนปัญหาการร่าง รธน.- กฎหมายลูก ทำโครงสร้างกรรมการสรรหาต่างกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เชาว์” ชี้ ปมกรรมการสรรหาสองชุด เห็นต่าง อดีต สนช.นั่งองค์กรอิสระ สะท้อนปัญหาการร่าง รธน.- กฎหมายลูก ทำโครงสร้างกรรมการสรรหาต่างกัน เชื่อ หากตีความ สนช.ไม่เป็น ส.ส.- ส.ว. อดีต สนช.จ่อสมัครเพียบ สุดท้ายได้แต่คนของ คสช. คุมกลไกตรวจสอบ ลากไส้ระบอบ 3 ป.สร้างอภิสิทธิ์ชนรุ่นใหม่ บางคนลากยาวสลับตำแหน่ง สนช.- ส.ว. 18 ปี ปล่อย 6 กก.สรรหา ส.ว.เลือกตัวเอง ไม่สนคำครหา ตีความกฎหมายเข้าข้างผู้มีอำนาจ เตือน รีบปรับทัศนคติตัวเอง เลิกสะสมของเสีย ก่อนถูก ปชช.ปรับทัศนคติ ห่วงบ้านเมืองบอบช้ำ

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาการตีความกฎหมายที่แตกต่างกันของคณะกรรมการสรรหาสองชุด คือ คณะกรรมการสรรหา กสม. และคณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช. ในเรื่องคุณสมบัติของอดีต สนช.ว่า เป็นส.ส.หรือ ส.ว.หรือไม่ ถ้าเป็นและยังพ้นตำแหน่งไม่ถึง 10 ปี ก็เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามนั่งตำแหน่งในองค์กรอิสระไม่ได้ ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการสรรหา กสม.มีมติว่า อดีต สนช.เป็น ส.ส.และ ส.ว.จึงต้องพ้นตำแหน่งสิบปีก่อนที่จะไปรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรอิสระ แต่กรรมการสรรหา ป.ป.ช.มองต่างมุม ไฟเขียวให้อดีต สนช.เป็น ป.ป.ช.ได้ จนถึงขั้นผ่านความเห็นชอบของ ส.ว.ไปแล้ว

อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ทำให้เกิดโครงสร้างกรรมการสรรหาที่แตกต่างกันระหว่างกรรมการสรรหา กสม.กับกรรมการสรรหาองค์กรอิสระอื่น ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการเพิ่มองค์กรภาคประชาชนไปร่วมเป็นกรรมการสรรหาเป็นเรื่องที่ดี และมีความจำเป็น แต่น่าเสียดายที่กำหนดไว้เฉพาะในกรรมการสรรหาของ กสม.เท่านั้น ขณะนี้มีความพยายามอธิบายว่า แม้ สนช.จะทำหน้าที่แทน ส.ส.และ ส.ว. รับสิทธิประโยชน์เหมือน ส.ส.และส.ว.ทุกอย่าง แต่ไม่ได้เป็น ส.ส.และ ส.ว. จึงไม่จำเป็นต้องพ้นตำแหน่งสิบปี ถึงจะไปสมัครรับตำแหน่งในองค์กรอิสระ ถ้ายึดการตีความแบบนี้ ผมเชื่อว่า จะมีอดีต สนช.เรียงแถวเข้าคิวไปรับการสรรหาเป็นองค์กรอิสระอีกเพียบ ผลที่ตามมาคือ หากคนเหล่านั้นได้รับเลือกจะถูกมองทันที ว่า กรรมการในองค์กรอิสระกลายเป็นคนของ คสช. เพราะคนที่เลือกก็เป็น ส.ว.ที่ คสช.เป็นผู้แต่งตั้ง แม้จะมี 50 คนมาจากการเลือกกันเองจากการแบ่งกลุ่มอาชีพก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีคำสัมภาษณ์เชิงขู่ว่า จะเกิดปัญหาใหญ่ถ้าตีความว่า สนช.เป็น ส.ส.และ ส.ว. เพราะจะทำให้อดีต สนช. 80 คนที่รั้งตำแหน่ง ส.ว.ในขณะนี้ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ผมก็อยากบอกว่าท่านไม่ต้องห่วงหรอก เพราะทันทีที่พวกท่านลุกจากเก้าอี้ เขาก็เลื่อนรายชื่อ ส.ว.สำรองขึ้นมาแทน ประเทศชาติไม่เสียหาย เพียงแต่เสียงบประมาณที่ต้องจ่ายให้ ส.ว. 250 คนต่อไป โดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น ระบบกฎหมายที่เกิดขึ้นในยุค คสช.ผมจึงขอเรียกว่าระบอบ 3 ป. ซึ่งได้สร้างอภิสิทธิ์ชนรุ่นใหม่ขึ้นเป็นจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่มีบางคนเป็น สนช.มาตั้งแต่ปี 2549 ต่อเนื่องอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติแบบสลับตำแหน่งระหว่าง สนช.กับ ส.ว.ยาวได้ถึง 18 ปี ตามวาระ 5 ปี ที่จะครบในปี 2567 ในขณะที่วาระปกติของ ส.ส. ส.ว.มีเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น และมี 15 อดีตรัฐมนตรียุค คสช.พอพ้นตำแหน่งก็ได้เป็น ส.ว.แบบไม่ขาดตอน มีกรรมการสรรหา ส.ว. 6 คนเลือกตัวเองเป็น ส.ว.โดยไม่สนคำครหาผลประโยชน์ทับซ้อน ขณะที่กฎหมายก็เอื้อมไม่ถึง นี่ผมไล่เรียงเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ สนช.และ ส.ว.เท่านั้น ยังไม่รวมถึงประเด็นอื่น ที่ทำให้สังคมตั้งคำถามเรื่องการตีความกฎหมายแบบเอียงกะเท่เร่เข้าข้างผู้มีอำนาจ

“ในฐานะที่ผมต่อสู้กับความไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ยุคพฤษภาทมิฬ จนถึงระบอบทักษิณ เข้าสู่ระบอบ 3 ป. เห็นการเมืองยิ่งถอยหลังลงคลอง นอกจากไม่มีการปฏิรูปแล้วยังกลับสู่วังวนแห่งการต่อรองและการสมประโยชน์แบบไม่มีที่สิ้นสุด ท่ามกลางระบบที่ฟอนเฟะยิ่งกว่าเดิม มีการเอื้อประโยชน์ทำโปรโมชันให้เกิดการย้ายค่าย ไปจนถึงดีลลับที่ส่งผลให้บางคดียุติลง ทั้งที่ควรต้องยื่นอุทธรณ์ต่อ สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นของเสียสะสม ที่จะทำให้ความขัดแย้งปะทุรุนแรงขึ้นได้ในอนาคต จึงอยากให้ผู้มีอำนาจปรับทัศนคติตัวเองเสียใหม่ ใช้อำนาจด้วยความเป็นธรรม อย่ารอให้ต้องถึงวันที่ประชาชนลุกขึ้นมาปรับทัศนคติ เพราะถ้าถึงวันนั้นประเทศชาติจะบอบช้ำอย่างรุนแรง” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น