“สุภรณ์” ออกโรงสวน “ชลน่าน” ยันรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ ปชช.ให้ครอบคลุม ชี้ประชุม ศบค.ตัดสินใจร่วมกันทำให้ผลออกมาดี เชื่อผ่อนปรนต่อเนื่อง ไม่นิ่งนอนใจหักหัวคิว โต้ “การุณ” นายกฯ ไม่มีประวัติทุจริต ถ้าพบใครหาผลประโยชน์ลงโทษแน่
วันนี้ (29 พ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่าง พ.ร.ก.เงินกู้ ที่ระบุว่าการเยียวยาประชาชนยังเป็นจำนวนน้อย ว่าที่ผ่านมานายกฯ และรัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเต็มที่ ทั้งมาตรการเยียวยาประชาชนเงิน 5,000 บาท เยียวยาเกษตรกร รวมถึงกลุ่มเปราะบาง และขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาเยียวยาเพิ่มเติม เร่งพิจารณาช่วยเหลือคนไทยทุกกลุ่มให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อีก เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า และน้ำ ให้ธนาคารปล่อยกู้ฉุกเฉินอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ก่อน
ส่วนที่ นพ.ชลน่านอภิปรายถึงการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กลายเป็นศูนย์บริหารความมั่นคงให้กับรัฐบาล ไม่ใช่การบริหารในภาวะวิกฤตนั้น อยากชี้แจงว่าตามโครงสร้าง ศบค.แล้ว มีนายกฯ เป็น ผอ.และมีปลัดฯหลายกระทรวงเข้ามาช่วยทำงาน โดยนายกฯ ได้มีการเรียกประชุมอย่างต่อเนื่อง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ โดยไม่ได้ปล่อยให้หน่วยงานไปแก้ไขกันเองเพื่อให้เป็นการทำงานที่เป็นเอกภาพ มี ศบค.เป็นศูนย์รวมพิจารณาตัดสินใจสั่งการเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเสียหายต่อประชาชน ดังนั้นทุกอย่างมีการตัดสินใจร่วมกัน จึงทำให้เกิดผลดีตามมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นั้น นายสุภรณ์ย้ำว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย เชื่อว่านายกฯ จะผ่อนปรนมาตรการ ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายนจะมีการผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 ให้แก่ประชาชน ถือว่าบรรยายกาศเริ่มผ่อนคลายแล้ว
ขณะเดียวกัน นายกฯไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะที่มีข่าวการทุจริตหักหัวคิวสถานที่กักตัวของรัฐ นายกฯ ได้สั่งการผ่านผู้บัญชาการเหล่าทัพให้เร่งหาตัวกลุ่มคน หรือขบวนการที่เรียกหักค่าหัวคิวโรงแรมที่เปิดใช้เป็นสถานที่กักตัวแห่งรัฐแล้ว
นายสุภรณ์ยังกล่าวถึงกรณีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่าการออกเป็น พ.ร.ก.เงินกู้ของรัฐบาลต้องการหนีการตรวจสอบจากผู้แทนประชาชนจริงหรือไม่ว่า ประเด็นนี้นายกฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาแล้ว โดยได้ตระหนักถึงความห่วงใยในประเด็นในการรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ และความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงิน พร้อมยืนยันว่าการใช้จ่ายเงินกู้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
“ท่านนายกฯไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ท่านห่วงใยคนไทยทุกคน เงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครจะหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน นายกฯ ไม่ยอมเด็ดขาด ขอให้ฝ่ายค้านเชื่อมั่นในความจริงใจตั้งใจในการใช้งบประมาณว่าจะมีการตรวจสอบอย่างรัดกุม มีการติดตามใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดการรั่วไหลหรือเสียหายเด็ดขาด ถ้าพบว่าบุคคลใดหรือหน่วยงานใดมีพฤติกรรมเก็บหัวคิวแสวงหาผลประโยชน์ท่านจะลงโทษอย่างเฉียบขาดไม่ละเว้นอย่างแน่นอน” นายสุภรณ์กล่าว