“สุภรณ์” ไล่อัด “การุณ” เอาเวลาไปทำอะไรไม่รู้ข่าวจับกุมกักตุนหน้ากาก ย้ำรัฐมาถูกทาง เย้ยแกล้งโง่ว่างไม่มีการพนันเล่น ปัญญาอ่อนถึงตีความคำพูดตนมั่วว่าสารภาพมีกักตุน ย้อนเจอคนจริงแล้วยอมอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
วันนี้ (14 เม.ย.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการยอมรับและสารภาพของตนเองว่าเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ตนพูดหมายถึงมีบริษัทหรือพ่อค้าหัวใสบางคนที่ได้กักตุน ทางเจ้าหน้าที่รัฐก็รีบเร่งดำเนินการจับกุมเพื่อมิให้เกิดการขาดแคลน จะเห็นได้ว่าขณะนี้ยังพบว่ามีการจับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย และนำไปจำหน่ายในราคาที่สูงมาก เป็นข่าวเกือบทุกวัน มีการดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ไม่เว้นว่าจะเป็นพ่อค้าหรือบุคคลใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แสดงว่านายการุณมัวแต่เอาเวลาไปทำอะไรถึงไม่รู้ว่ามีการจับกุมผู้กักตุนอย่างเข้มงวด รัฐบาลมิเคยปล่อยปละละเลยนิ่งนอนใจแต่อย่างไร
ตนพูดในขณะที่การขาดแคลนหน้ากากอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น เกิดจากความต้องการใช้จำนวนมากในช่วงแรกๆ ที่มีการระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งพบว่าช่วงแรกที่มีอัตราแพร่เชื้อสูง ตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มแก้ไขได้ด้วยความทุ่มเทของทุกฝ่ายจนทำให้การแก้ไขปัญหาเริ่มเข้าที่เข้าทาง ไม่ได้ขาดแคลนเหมือนช่วงแรกๆ การตั้งกรรมการคณะนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่ามีการเตรียมความพร้อมความในการทำงานให้ประชาชนให้มีคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการดูแลบริการประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์การทำงานเพื่อให้ประชาชนอบอุ่นใจอย่างเห็นได้ชัด และก็ทำให้เห็นภาพว่าการแก้ไขป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสนั้นเดินมาถูกทางจนอัตราการแพร่เชื้อสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ประมาท ยังต้องทำงานดูแลประชาชนต่อไปจนกว่าจะก้าวผ่านไปได้
“ผมเชื่อว่านายการุณทราบความหมายในการอธิบายของผมดีแต่ทำเป็นแกล้งโง่ เพราะวันๆ ช่วงนี้ บ่อนไก่ก็ถูกปิด ฟุตบอลต่างประเทศก็หยุดแข่งขันอารมณ์เลยหงุดหงิด สมองเลยว่างมาตีความแบบศรีธนญชัย คือมั่วนิ่ม ผมไม่ได้ว่าอะไร ส.ส.เก่งเลย ก็เตือนกันในฐานะคนรู้จักกันมาก่อน มีแต่ผมเคยเห็นมีเรื่องราวกับ ส.ส.สิระ ข่าวว่าเจอกันในห้องน้ำในสภา ส.ส.เก่ง การุณ ถึงกับผวาตกใจ ว่างๆ ส.ส.สิระฝากถามมาว่าไปรายงานตัวที่ สภ.เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี หรือยัง นิสัยหาเรื่องแบบนี้ต้องเจอแบบคุณแทนคุณ จิตต์อิสระ ร้อง กกต.ข้อหาปราศรัยหาเสียงกล่าวหาอันเป็นเท็จจนต้องยอมจ่าย 1 ล้านบาท เพื่อให้ถอนเรื่อง ยอมอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ หมดลายเลยอย่างงั้นหรือเปล่า ผมเตือนด้วยความหวังดี กลับไปอ่านใหม่ หัดใช้สมองค่อยๆ อ่านให้รอบคอบ มีประโยคไหนที่ผมสารภาพ มีแต่ความหมายในเชิงอธิบายว่าขาดแคลนเพราะมีพ่อค้าบางคนหัวใสกักตุนขายราคาแพงทำให้ขาดแคลนในช่วงแรกๆ ทางรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐก็เข้าไปดำเนินการจับกุมรายวัน ทำไมไม่เข้าใจในความหมายที่ผมพูด อย่างนี้ไม่เรียกว่ามั่วนิ่ม หรือปัญญาอ่อนจะเรียกอะไร อย่ามาทะเลาะกับผมเลย ผมต้องการเตือนในฐานะคนรู้จักกันมาก่อนเพื่อบอก ส.ส.เก่ง การุณ ว่าบรรยากาศในเวลานี้ประชาชนต้องการความร่วมมือกันสามัคคีกันของทุกฝ่าย ไม่ต้องการเห็นนักการเมืองทะเลาะกันโจมตีกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทเสียสละหมดขวัญกำลังใจ ผมพูดแค่นี้ทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง ผมไม่ทะเลาะด้วย อ ยากทะเลาะเชิญไปเป็นนักเลงมาเฟียทะเลาะกับคนอื่นเถอะครับ ผมไม่ทะเลาะด้วยกับคนแบบนี้ ผมให้อภัย ขออโหสิกรรมให้ครับ เพราะผมไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ทุ่มเททำงานเบื่อหน่ายที่เห็นนักการเมืองมาโต้ตอบกันรายวันครับ” นายสุภรณ์กล่าว