รองประธานอาวุโสสภาเอสเอ็มอี ยื่นหนังสือ กมธ.ติดตามงบฯ เสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการจากโควิด-19
วันนี้ (30 เม.ย.) นายศุภชัย แก้วศิริ รองประธานอาวุโสสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา การจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธาน กมธ. เพื่อเสนอความเห็นต่อการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ นายศุภชัยกล่าวว่า สำหรับข้อเสนอของสภาเอสเอ็มอีนี้ มีทั้งสิ้น 3 แนวทาง คือ 1. ขอให้ทุกธนาคารของรัฐ และทุกธนาคารพาณิชย์ ขยายเวลาการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็น 12 เดือน รวมถึงงดเว้นการบังคับคดีทุกคดีของสถาบันการเงินและบรรษัทบริหารสินทรัพย์ 2. ให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้กู้สินเชื่อรายเดิมของสถาบันกู้เงินที่แจ้งความประสงค์ขอกู้สินเชื่อเพิ่ม ไม่เกินร้อยละ 70 จากวงเงินสินเชื่อที่ผ่อนชำระแล้ว โดยไม่ต้องทำเรื่องเพื่อขอสินเชื่อใหม่ 3. สำหรับกรณีที่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อปล่อยเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี สภาฯ มีข้อเสนอให้แบ่งเงินสินเชื่อเป็น 2 กลุ่ม คือ จำนวน 2.5 แสนล้านบาท ให้กับสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และธุรกิจการเกษตรที่อยู่ในระบบสินเชื่อธนาคาร และอีกจำนว 2.5 แสนล้านบาท สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีที่ไม่อยู่ในระบบสินเชื่อของธนาคาร อย่างไรก็ตาม ในข้อเสนอของซอฟต์โลนนั้น ทางสภาเอสเอ็มอีเตรียมทำเป็นข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่นายการุณระบุว่า เมื่อสภาผู้แทนราษฎรเปิดสมัยประชุมแล้วจะนำเรื่องดังกล่าวหารือเป็นเรื่องด่วนใน กมธ.ทันที ส่วนขณะนี้ทาง กมธ.ทำได้เพียงการหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพราะใช้การหารือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกรับรอตามกฎหมาย