xs
xsm
sm
md
lg

“จิรายุ” ตั้งฉายา “ลุงตู่นักกู้ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” ให้นายกฯ อ้างเก่งกู้เงินแต่บริหารเศรษฐกิจเหลว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จิรายุ” มอบฉายา “ลุงตู่นักกู้ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” ให้นายกฯ เหตุเก่งกู้เงินแต่บริหารเศรษฐกิจเหลว ชี้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติแจงผ่านเฟซบุ๊กรัฐบาลไม่ได้กู้เงินถึง 1.9 ล้านล้านบาท เป็นการเบี่ยงประเด็นและทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่น ทั้งที่ต้องเป็นหนี้ไปอีก 80 ปี

วันนี้ (29 พ.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านต่อพระราชกำหนด 3 ฉบับ ไดแก่ 1. พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 2. พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 ว่าจากการตรวจสอบเสียงสะท้อนของประชาชนทั้งในสื่อสังคมออนไลน์และจากสำนักงานสาขาของพรรคที่มีต่อการอภิปรายพระราชกำหนดฉบับที่ 1 ซึ่งมีการกู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น ตลอด 2 วันที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือเป็นห่วงว่าการกู้เงินจะทำให้เป็นหนี้ตลอดไป วันนี้จึงได้มีฉายาใหม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าลุงตู่นักกู้ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลุงตู่กลายเป็นนักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ (29 พ.ค.) ตนเองจะมีการอภิปรายสรุปพระราชกำหนดฉบับนี้ด้วยซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยังติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม มองว่าหากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นอย่างดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังการปฏิวัติ โดยการตั้งงบประมาณสมดุลปีละ 100,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมาเป็นเวลา 6 ปี จนถึงขณะนี้รัฐบาลก็จะมีเงินอย่างน้อยถึง 600,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกู้เต็มจำนวน 1 ล้านล้านบาท หากรัฐบาลสามารถหาเงินเก่ง นอกจากทำการแจกเพียงอย่างเดียว วันนี้อาจจะกู้เงินเพียง 200,000-300,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในการอภิปรายชี้แจงของคณะรัฐมนตรีนั้น นอกจากสอบตกแล้วยังต้องไล่ออก เพราะมีแต่พูดว่าจะกู้เงินและอวดบารมีศักดิ์ศรีของตนเองว่าแก้ไขปัญหาแต่ไม่เคยบอกว่าจะใช้หนี้และหาเงินอย่างไร โดยฝ่ายค้านมีเวลาอีกครึ่งทางของการอภิปรายซึ่งได้มีการจัดลำดับขุนพลที่จะอภิปรายชำแหละเงินกู้ ทั้งนี้ มองว่าการกู้เงินไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้หนี้คือปัญหาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

นอกจากนี้ยังมีความวุ่นวายของรัฐบาลที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ที่ชี้แจงถึงการดำเนินงานตามพระราชกำหนดผ่านเฟซบุ๊ก มองว่าคนระดับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรชี้แจงกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยผู้ว่าการ ธปท.พยายามชี้แจงว่ามีการกู้เงินไม่ถึง 1.9 ล้านล้านบาท แต่พรรคร่วมรัฐบาลกลับพูดถึงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ตลอดระยะเวลาของการอภิปราย มองว่าการชี้แจงว่ารัฐบาลกู้เงินไม่ถึง 1.9 ล้านล้านบาทของผู้ว่าการ ธปท.นั้น เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นว่ารัฐบาลกู้เงินไม่ถึง 1.9 ล้านล้านบาท เป็นเงินยืม อัฐยายซื้อขนมยาย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คนระดับผู้ว่าการ ธปท.ต้องชี้แจงด้วยเอกสาร ไม่ใช่ใช้พื้นที่เฟซบุ๊ก และต้องชี้แจงผ่านกระทรวงการคลัง เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ที่ประเทศไทยและประชาชนต้องเป็นหนี้ไปอีก 80 ปี ตนตาย 2 รอบไม่รู้จะอยู่ทันใช้ครบหรือเปล่า จึงขอให้แบงก์ชาติพูดให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

สำหรับการอภิปรายในวันนี้คาดว่าจะจบลงในเวลา 20.00 น.เช่นเดิม โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแบ่งการอภิปรายเป็น 3 ส่วน คือ พระราชกำหนดฉบับที่ 1 ซึ่งจะจบลงในวันนี้ (29 พ.ค.) ส่วนวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ก็จะอภิปรายพระราชกำหนดฉบับต่อไป ขณะที่ในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.ก็จะเป็นการอภิปรายพระราชกำหนดฉบับสุดท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น