วาทะเด็ด “ช่อ” ย้อนเกล็ด “ไพบูลย์” ไม่ใช่ “ลุงตู่” คนไม่ฆ่าตัวตายขนาดนี้ “ปารีณา” กระทบชิง “ยิ่งลักษณ์” คืนเงิน 7 แสนล้านบาท ก็ไม่ต้องกู้ “แรมโบ้” สอยดาวสภา “นักโกง” อดีตบิ๊กข่าวกรอง ฟันธงอย่างนี้รัฐบาลอยู่ 4 ปี
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 พ.ค. 63) “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า
“ไพบูลย์ นิติตะวัน อาจจะถูกก็ได้ ถ้าประเทศไทยไม่มีรัฐบาลประยุทธ์ จะมีคนติดโควิดมากกว่านี้ แต่อาจจะมีคนอดตายและฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจน้อยกว่านี้ #ประชุมสภา”
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ ของ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ โพสต์หัวข้อ “ประชุมสภาวันที่ 2 ค่ะ”
โดยระบุว่า “#ไม่กู้ก็ได้ แต่ช่วยอ่านต่อ
การกู้เงินของรัฐบาลคือความจำเป็น ซึ่งหลายฝ่ายในรัฐสภายอมรับเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัว คิดว่า.. ไม่ต้องกู้ก็ได้ ถ้า...ยิ่งลักษณ์ นำเงิน 7 แสนล้านบาทที่โกงมาคืน”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา “ดาวสภา” ประจำพรรค ที่ตั้งฉายาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า เป็นนักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น
ตนจะบอกถึงนายจิรายุ ว่า การกู้ของรัฐบาลเป็นการกู้เพื่อใช้หนี้ให้กับรัฐบาลในอดีตที่สร้างหนี้ไว้ โดยเฉพาะหนี้สินที่ค้างหนี้ชาวนาในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และหนี้สินอื่นๆ ที่รัฐบาลในอดีตทิ้งค้างไว้อย่างมากมาย ตลอดจนเป็นการกู้มาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำมาแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 เพื่อป้องกันและเยียวยารักษาประชาชน ให้อยู่รอดปลอดภัยจากไวรัสร้าย ซึ่งทุกคนก็ทราบดี
“การกู้เงิน มีมาทุกยุคทุกสมัย รัฐบาลในอดีตก็เคยกู้เงินมาอย่างต่อเนื่องไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ในความเห็นส่วนตัวผมเห็นว่า การกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายเยียวยาช่วยเหลือประชาชน เพื่อคนยากคนจนที่เดือดร้อน ดีกว่าการกู้มาโกง กู้มาเพื่อหากินใส่กระเป๋าตัวเองหรือพวกพ้อง หรือแจกจ่ายให้ บรรดาวงศาคณาญาติตนเอง
“ดังนั้น คิดว่า ลุงตู่นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาในความหมายของนายจิรายุนั้น ประชาชนชื่นชอบ เพราะลุงตู่กู้เพื่อให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างทั่วถึง ดีกว่า ผู้นำบางคนในอดีตของพวกท่านเป็นนักโกงแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา นักกู้มาโกง นักกู้มากินมาเก็บใส่กระเป๋าตัวเอง โดยไม่เผื่อแผ่ประชาชน อย่างนี้ประชาชนสาปแช่งนะครับ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนนอก เฟซบุ๊ก Nantiwat Samartของ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความระบุว่า
“ฟังการอภิปรายของ ส.ส.ในสภาเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ ไม่น่าเชื่อ คุณภาพ ส.ส.ได้แค่นี้ อภิปรายนอกประเด็น เหมือนอารมณ์ค้างจากอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมที่แล้ว ยิ่งพูดมากยิ่งเข้าตัว
อวดอ้างฝีมือในสมัยที่ตัวเองเป็นรัฐบาล ส่วนอีกพรรค เหมือนเรือไม่มีไต้ก๋ง ไม่มีคนคัดท้าย ถูกชี้แจงตบหน้าแล้วตบหน้าอีก อายแทน
หากฝ่ายค้านมีฝีมือแค่นี้ พูดตีฝีปาก ไม่มีข้อมูล รัฐบาลขอแค่ไม่โกงกิน ไม่ขัดแย้ง ไม่ขัดขากันเอง น่าจะบริหารประเทศได้จนครบวาระ 4 ปี”
ทั้งนี้ วาทะเด็ดของคนในแวดวงการเมือง และที่เกี่ยวข้องเนื่องมาจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งหนึ่ง) เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อนำมาแก้ปัญหาไวรัสโควิด 19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่า ดุเด็ดเผ็ดมันทีเดียว
ส่วนใครจะชื่นชอบ หรือ ประทับใจ วาทะเด็ดของใคร ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของใครของมัน เพราะทุกเรื่องราว ล้วนมีที่มาที่ไป มีเหตุมีผลที่ต้องทำให้แสดงวาทะออกมา ถ้าเราเท่าทัน ก็จะได้คิดเสียว่า นี่คือ สีสันทางการเมืองเท่านั้นเอง