“สุทิน” นำวิปฝ่ายค้านประชุมเตรียมพร้อมรอบสุดท้าย ติวเข้มกรอบเวลา วาง 76 ส.ส.อภิปราย ก่อนเริ่มการประชุมสภาเพื่อพิจารณา 3 พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) พร้อมด้วย ตัวแทนจาก 6 ฝ่ายค้าน ประชุมหารือเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องประเด็น กรอบเวลา และตัวบุคคลที่จะอภิปราย พ.ร.ก. กู้เงิน 3 ฉบับ โดย นายสุทิน กล่าวว่า ตนได้หารือกับประธานสภา เนื่องจากกังวลว่าการประชุมในวันถัดไปที่จะเริ่มในเวลา 09.30 น. จะบริหารจัดการไม่ได้ เพราะองค์ประชุมจะมีปัญหา ดังนั้น ประธานสภาจึงเสนอว่าให้ใช้วิธีการเลื่อนการประชุม ซึ่งจะไม่ต่างจากการพักการประชุม เพื่อให้การประชุมในวันถัดไปเริ่มประชุมได้ทันที ซึ่งตนก็เห็นด้วย ดังนั้น หากมีการถามความเห็นในที่ประชุมสมาชิก เราควรสนับสนุนกรณีดังกล่าวนี้ด้วย และสำหรับคนที่ประสงค์จะอภิปราย 2-3 รอบ โดยเสนอว่า จะจัดสรรเวลาให้ลงตัวนั้น ไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะประธานสภาระบุว่าถ้าให้คนหนึ่งคนอื่นๆ จะต้องทำด้วย เพราะมีผู้ประสงค์จะขึ้นหลายรอบมีจำนวนมาก
นายสุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับสัดส่วนผู้อภิปรายของแต่ละพรรค คือ พรรคเพื่อไทย 54 คน พรรคก้าวไกล 14 คน พรรคเสรีรวมไทย 4 คน พรรคประชาชาติ 3 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ มีความประสงค์ที่จะร่วมอภิปราย โดยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งจะแบ่งเวลาจากโควตาของพรรคเพื่อไทย รวม 78 คน โดยการบริหารลำดับคิวจะหารือร่วมกันเป็นวันๆ ไป เพราะต้องเป็นไปตามสถานการณ์ เนื้อหา และน้ำหนักที่เราอยากจะให้ โดยเบื้องต้นวางลำดับคร่าวๆ ก่อน ซึ่งเซ็นเตอร์ในการจัดลำดับ คือ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย น.ส.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย และ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
โดยลำดับการอภิปรายในวันแรก จะเริ่มด้วยภาพรวมของ พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดยวางผู้อภิปรายไว้ทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน จะเป็นคนแรกในการอภิปราย ตามด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย จากนั้นจะเป็นจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย โดยเน้นย้ำให้ผู้อภิปรายทุกคนรักษาระยะเวลาในการอภิปรายให้ขาดดีกว่าเกิน และสิ่งที่กังวลคือ การอภิปรายซ้ำประเด็น โดยเฉพาะ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ฉะนั้น เราจะบริหารอย่างไร เพื่อให้เกิดคุณภาพ ดังนั้น ขอให้ทุกพรรคย้ำกับผู้อธิปรายให้ตัดหรือยืดหยุ่น พลิกแพลงเนื้อหาการพูด ไม่ให้เกิดการฉายหนังซ้ำเก่า เพราะจะทำให้เกิดการประท้วงและเป็นเหตุให้ขาดสาระ นอกจากนี้ ขอให้แต่ละพรรคส่งตัวแทน มาเป็นกลุ่มพิทักษ์กฎสภา อย่างน้อยขอให้มี 5 คนก่อน อาทิ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอเสนอความเห็นของเคอร์ฟิว เพราะคนที่ส่งผัก ส่งนม ยังสามารถยกเว้นให้ได้ ทำไมการประชุมสภา จึงเว้นให้ไม่ได้ ดังนั้น วิปฝ่ายค้านจึงควรนำเรื่องนี้ไปหารือกับประธานสภา และวิปรัฐบาล และแจ้งไปที่ ศบค. ว่า เรามีความจำเป็นที่จะให้ยกเว้นเคอร์ฟิวสำหรับการประชุมสภา เพื่อที่จะได้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วัน พฤหัสบดี-เสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ จะได้ใช้เพื่อทดเวลาบาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน ได้มอบหมายให้ นพ.ชลน่าน และ นายพิจารณ์ ไปปรึกษากับประธานสภา ที่หลังบัลลังก์
ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนอยากขอเสนอให้สภาทดเวลาไป ชั้วโมงหรือชั่วโมงครึ่งในแต่ละวันได้ เพราะเคอร์ฟิวเวลา 23.00 น. ถ้าหลับบ้านเวลา 21.00-21.30 น. ก็น่าจะทันเวลา ดังนั้น อยากให้สภาพิจารณาด้วย.