“เศรษฐพงค์” ชี้ เทคโนโลยีดิจิทัล ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิดได้เร็ว แนะรัฐลงทุนโครงสร้างโทรคมนาคม-ส่งเสริมแพลตฟอร์มของคนไทย เพื่อสร้าง Productivity กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
วันนี้ (23 พ.ค.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และ รองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ถือว่าเริ่มดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่จำนวนผู้ที่ติดเชื้อลดลงและทรงตัวอยู่ในเลขตัวเดียวมานาน ถือว่า เราควบคุมสถานการณ์ได้ดีแล้ว แต่ต่อไปที่เราจะต้องคำนึงถึงคือเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตโควิด ซึ่งตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นการปรับตัวของธุรกิจต่างๆ ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เช่น การขายของ การสั่งอาหารออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์ การทำงานแบบ Work from Home การดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยี และความบันเทิงผ่านออนไลน์ ซึ่งรูปแบบการทำงานต่างๆ เหล่านี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ไอที รัฐบาลและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมปัจจัยด้านโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลต้องจัดเตรียมความพร้อมและเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะโครงสร้างระบบโทรคมนาคม และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรองรับพฤติกรรมของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปหลังผ่านวิกฤตไวรัสโควิด เช่น จะต้องส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยสื่อสารทางไกล จัดประชุม หรืออีเวนต์ รวมถึงบริการด้านต่างๆ ที่เป็นแพลตฟอร์มของคนไทย เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เทคโนโลยีดิจิทัล จะเข้าไปมีบทบาทสำคัญในหลายภาคส่วน แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาก็ต้องพัฒนาไปใช้วิธีการสอนแบบออนไลน์ทดแทนในช่วงวิกฤต รวมถึงระบบการจ่ายเงินและชำระเงินที่จะเน้นไปที่ระบบออนไลน์มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคม ร่วมถึงระบบโครงข่าย 5G รัฐบาล กสทช. กระทรวงดิจิทัลฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งมือในการทำโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงต้องมีการวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงแบบยั่งยืนในอนาคต เราจะไปรอหรือพึ่งเทคโนโลยีของต่างชาติอย่างเดียวคงไม่ได้
“การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและแพลตฟอร์มของคนไทย จะทำให้เกิด Productivity ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดการหยุดชะงักในช่วงโควิด ซึ่งหากเราเตรียมความพร้อมได้เร็วในเรื่องเทคโนโลยี ด้านดิจิทัล โทรคมนาคม จะหนุนให้เศรษฐกิจของเราฟื้นตัวได้เร็ว เราต้องลงทุนพัฒนาโครงสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ด้วยราคาที่ไม่แพง และครอบคลุมทุกพื้นที่ หลังจากนี้ รูปแบบการทำงานจะไม่กลับไปเป็นเหมือนในภาวะปกติอีกต่อไป แต่มีแนวโน้มว่าจะมีการนำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่เข้ามาสอดแทรกเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติงาน และจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกได้ต่อไป ดังนั้นเราจึงควรต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตไวรัสโควิด” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว