xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” ทวงปฏิรูป ทบ.ชูนี่คือเวลาสถาปนาอำนาจ ให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แกนนำก้าวไกล ทวง “อภิรัชต์” ปฏิรูปกองทัพไปถึงไหน แฉสนามกอล์ฟสวนสนฯ ยังไม่มีเอกชนเข้ามาบริหาร จี้เปิดประมูลเอาเงินเข้าคลัง บี้ตอบปมบริษัท อาร์มี ฟุตบอล ดักคอประมูลสิทธิ์บริหารลิขสิทธิ์สนามมวยลุมพินีจะทำลับๆ ล่อๆ ไหม ถามอะไรคือเส้นแบ่งคณะบุคคลกับผลประโยชน์รัฐ ชี้ตัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจกองทัพ จะทำให้ทหารไม่มีแรงจูงใจยุ่งการเมือง ชูนี่คือเวลาสถาปนาอำนาจประชาชน ให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ

วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟชบุ๊ก ThanathornOfficial ในหัวข้อ 6 ปีรัฐประหาร 90 วัน ปฏิรูปกองทัพ ได้เวลาทวงสัญญาประชาชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปีการทำรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 และครบรอบคำสัญญาของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้ให้สัญญาถึงการปฏิรูปกองทัพให้เสร็จในระยะแรกช่วง 90 วัน ซึ่งครบกำหนดเมื่อ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า แม้หลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะหมดบทบาทไป แต่ไม่ได้หมายความว่าการสืบทอดอำนาจจากการทำรัฐประหารจะหมดไป วันนี้ เรายังอยู่ใต้เงาทะมึนของการทำรัฐประหาร

นายธนาธร กล่าวว่า 6 ปีที่ผ่านมา ความเหลื่อมล้ำ ช่องว่าง คนจนกับคนรวยห่างขึ้นทุกวัน ประเทศไทยไม่สามารถก้าวตามโลกาภิวัตน์ได้ ขีดการแข่งขันประเทศเทียบกับเพื่อนบ้านตกต่ำเรื่อยๆ ประชาชนเจอพิษเศรษฐกิจแสนสาหัส ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ทั้งยังเป็นสิ่งตกค้างไม่สามารถพาประเทศไปไกลกว่านี้ได้ ความอัดอั้นตันใจของประชาชน แสดงออกชัดที่สุดหลังเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช เราได้ยินเสียงเรียกร้องอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นฉันทามติว่าต้องปฏิรูปกองทัพ นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของประวัติศาสตร์ ที่เราจะทำภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ให้เป็นจริงได้ อย่าปล่อยให้คนธรรมดา 30 ชีวิตที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่โคราชตายฟรี ชีวิตของพวกเขาควรจะมีความหมายว่าได้ปลุกวาระการปฏิรูปกองทัพให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

แกนนำคณะก้าวไกล กล่าวต่อว่า ที่ พล.อ.อภิรัชต์ สัญญาว่าจะปฏิรูป เช่น นำธุรกิจกองทัพในที่ดินราชพัสดุออกมาให้เอกชนดำเนินการ แล้วแบ่งรายได้ให้กระทรวงการคลัง อาทิ สนามมวยลุมพินี, โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์, สนามกอล์ฟสวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสัปดาห์ก่อน ตนได้มีโอกาสไปตีกอล์ฟที่สนามนี้ โดยหลังใช้บริการนำใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีอย่างย่อมาดู พบว่ายังไม่มีการให้เอกชนมาบริหาร หมายเลขผู้เสียภาษียังเป็นของกองทัพบก หมายความว่าจนถึงตอนนี้ การบริหารจัดการยังอยู่ภายใต้กองทัพบก ทั้งที่ตามข่าวเมื่อ 15 ก.พ. 63 ระบุจะให้โรงแรมดุสิตธานี เข้าบริหารภายใน 1 เม.ย. 63 ซึ่งการจะให้เอกชนเข้ามาจัดการนั้น มีระเบียบราชการ 2 ส่วน คือของสำนักนายกรัฐมนตรี กับระเบียบกระทรวงการคลัง โดยถ้าใช้ระเบียบกระทรวงการคลังต้องเปิดให้มีการประมูล ส่วนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทำกันเองได้ไม่ต้องเปิดประมูล



“เชื่อว่า กรณีนี้เลือกใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องเปิดให้มีการประมูล แต่ปัญหาว่า โรงแรมและสนามกอล์ฟซึ่งการลงทุนตามที่ประเมินน่าจะไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท แต่เรากำลังให้เอกชนบริหารโดยไม่ต้องเปิดประมูล โดยอ้างว่าเป็นการจัดสวัสดิการภายใน และถ้าแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์จากเอกชนให้คลัง นี่เป็นวิธีการดีที่สุดสำหรับการใช้ที่ดินผืนนี้หรือไม่ เพราะคลังได้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ กองทัพจัดการเอง ดังนั้น ข้อเสนอของเราคือ ต้องเปิดประมูลให้เป็นสาธารณะ โดยใช้ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ให้มีการเปิดประมูล เมื่อประมูลแล้วได้เท่าไรส่งเข้าคลังให้หมด ส่วนสวัสดิการของกองทัพส่วนนี้จะใช้เท่าไหร่ ขอในงบประมาณแผ่นดินปกติ ผ่านสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอย่างนี้จะทำให้โปร่งใส ตรวจสอบได้” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า อีกเรื่องที่เราได้ตรวจสอบคือกรณีของสโมสรฟุตบอล อาร์มี ยูไนเต็ด ที่ได้ยุบไปแล้วนั้น พบว่า สโมสรบริหารโดย บริษัท อาร์มี ฟุตบอล จำกัด ซึ่งก่อตั้งปี 2552 ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ปัญหาคือ บริษัทนี้ไม่ได้บริหารหรือเป็นเจ้าของแต่เพียงสโมสร อาร์มี ยูไนเต็ด เท่านั้น แต่ยังบริหาร สโมสรทหารบก เอฟซี ด้วย ซึ่งตั้งแต่จดจัดตั้งจนถึงทุกวันนี้ รายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัททั้งหมดนั้นเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และหลายคนยังรับราชการอยู่ นั่นหมายความว่า บริษัทนี้บริหารสโมสรฟุตบอล 2 สโมสร โดยใช้ลิขสิทธิ์ชื่อกองทัพบก ใช้เวลาราชการ ใช้สนามกองทัพบก ใช้บุคลากรกรกองทัพ ใช้พื้นที่สำนักงานกองทัพ ใช้ทรัพยากรต่างๆ ของกองทัพบก แต่เป็นบริษัทเอกชน

“ถามว่าผู้บริหารหลายคนที่เป็นนายทหารนั้นแบ่งเวลาอย่างไร เรื่องไหนเป็นเรื่องบริษัทจำกัดที่ตนเองถือหุ้นอยู่ และเรื่องไหนเป็นเรื่องของราชการ หรือท่านปฏิบัติ 2 หน้าที่ในเวลาเดียวกัน และนอกจากระดับนายทหารแล้ว เรายังพบว่ามีการใช้ข้าราชการระดับปฏิบัติการไปทำหน้าที่ให้กับบริษัทด้วย เช่น หลักฐานหนังสือที่ บริษัท อาร์มี ฟุตบอล มอบอำนาจให้บุคคลไปดำเนินการบางอย่างแทนบริษัท ซึ่งพอตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นทหารที่ยังรับราชการอยู่ ดังนั้น เราจะเห็นว่า ความเป็นเอกชนกับราชการทับซ้อนกันไปหมด และเพราะการทำให้เส้นแบ่งระหว่างรัฐกับเอกชนเบลอแบบนี้ ทำให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่แสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร รองประธานและผู้อำนวยการสโมสรอาร์มี ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์เมื่อ 29 พ.ย. 62 ว่า จริงๆ แล้วกองทัพบกมี 2 ทีมฟุตบอล คือ อาร์มี ยูไนเต็ด ซึ่งอยู่ลีก 2 และอีกทีม คือ กองทัพบกเอฟซี ในการดูแลกรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งอยู่ลีก 4 และบอกด้วยว่ามีความเป็นไปได้ว่าในการหาทางออก คือ เอากองทัพบก เอฟซี เปลี่ยนใหม่เป็นอาร์มี ยูไนเต็ด จะทำให้ตำนานทีมตั้งแต่ปี 2459 ไม่สูญหาย ไม่เสียหาย และจะใช้ทหารเป็นนักเตะ โค้ชเป็นคนไทย ซึ่งคำให้สัมภาษณ์นี้หมายความว่าปิด 1 ทีม เหลือ 1 ทีม แต่ปัญหาก็คือ สถานะก็ยังกำกวม เพราะทีมอยู่ในการดูแลของกรมสวัสดิการทหารบก แต่บริษัทเป็นเอกชน มีผู้ถือหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ในกองทัพ ตกลงความสัมพันธ์ระหว่าง บริษัท อาร์มี ฟุตบอล จำกัด กับ กรมสวัสดิการทหารบก เป็นอะไรกันแน่

“คำถามคือ เมื่อเป็นบริษัทเอกชน ที่ผ่านมา มีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ จ่ายค่าเช่าสนามให้รัฐหรือไม่ เงินเดือนนายทหารรับสองทางหรือไม่ ใช้ทรัพยากรหลวงทั้งหมดจ่ายเงินเข้ารัฐหรือเปล่า และคำถามสำคัญ คือ ถ้าผู้ถือหุ้นเป็นนอมินีกองทัพบก ใครเป็นคนควักเงินจดทะเบียน 20 ล้านบาท นี่คือคำถามสำคัญ เพราะถ้าเอกชนเป็นเจ้าของ การตัดสินใจจะปิดเป็นของเจ้าของ เป็นของผู้ถือหุ้นไม่ใช่ พล.อ.อภิรัชต์ นี่ยังไม่นับว่า ตกลงการสร้างทีมฟุตบอลลงแข่งลีกอาชีพเป็นพันธกิจกองทัพหรือไม่ เพราะถ้าทำดำเนินการต่ออย่างนี้ หมายความว่าต้นทุนทั้งหมด เป็นของรัฐ แต่กำไรทั้งหมดเป็นของเอกชน ถ้าโครงสร้างอย่างนี้ ปันผลเมื่อไหร่ก็ไม่ได้เข้ากองทัพบก แต่เข้าผู้ถือหุ้น กำไรผู้ถือหุ้นเอาไป แต่ต้นทุนรัฐเป็นคนรับ เรื่องอย่างนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ต้องตอบ ปิดแล้วยังไม่จบ และที่สำคัญหลายอย่างก็เกิดขึ้นสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ.ด้วย” นายธนาธร กล่าว

ส่วยประเด็นสนามมวยลุมพินี นายธนาธร กล่าวว่า เมื่อเข้าไปดูในเว็บไซต์ รายนามกรรมการบริษัทก็จะพบว่า พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงเป็นประธานอำนวยการสนาม ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ว่ามีเอกชนเข้ามาบริหาร รวมถึงกรรมการอื่นๆ ก็เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด และบริษัทเกี่ยวข้องเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอด การประชาสัมพันธ์ เป็นของ บริษัท เวิร์ด สปอร์ท กรุ๊ป จำกัด ซึ่งรายงานผู้สอบบัญชีปีบัญชี 2559 หน้าแรก ระบุไว้ว่าธุรกิจหลักคือบริหารสิทธิประโยชน์ในสนามมวยลุมพินี ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเงื่อนไขในการให้สัญญาเป็นอย่างไร ไม่เคยมีการเปิดเผยสาธารณะ ประชาชนไม่เคยรู้

นายธนาธร กล่าวต่อว่า และยังพบว่า มิ.ย.2558 บริทนี้เข้าทำสัญญากับผู้ให้สิทธิรายหนึ่ง เพื่อรับสิทธิการดำเนินงานเกี่ยวกับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การบริหารสิทธิประโยชน์ในลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและเทปการจัดการแข่งขัน โดยใช้เครื่องหมายการค้าของผู้ให้สิทธิ สัญญามีอายุ 5 ปี นับจากเดือน ก.ค. 2558 โดยมีผลตอบแทน 5 ล้านบาทภายในปี 2561 ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ 2 ล้านบาท และแบ่งกำไรให้ผู้ให้สิทธิร้อยละ 10 ซึ่งคู่สัญญาอนุมานได้ว่าองค์กรของกองทัพบกองค์กรหนึ่ง ปัญหาคือ เวิร์ด สปอร์ท กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้ง พ.ค. 2558 พอ มิ.ย. 2558 เข้าทำสัญญาบริหารสิทธิสนามมวย นั่นคือ 1 เดือนหลังตั้ง และจะหมดสัญญา ก.ค 2563 นั่นคือ อีก 2 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็จะเกิดการประมูลสิทธิ์ใหม่ คำถามคือว่า วันนี้มีสภาผู้แทนราษฎร มีการเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปกองทัพแล้ว ยังจะทำลับๆ ล่อๆ อีกไหม ยังจะผ่านแบบกฎเกณฑ์สวัสดิการกองทัพไหม สนามมวยนี้รัฐลงทุน เป็นภาษีประชาชน ทำไมไม่ประมูลโปร่งใส เก็บรายได้เข้าคลัง และถ้าต้องการเงินเพิ่มสวัสดิการใดๆ ก็ผ่านสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ อย่างนี้น่าจะสง่างาม โปร่งใส และจะไม่เป็นที่ครหา



“นอกจากนี้ ที่ติดสนามมวยยังมีปั้มน้ำมัน สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสวัสดิการ 17 รามอินทรา เราเข้าไปเติมน้ำมัน และได้ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีอย่างย่อมีเลขผู้เสียภาษี ตรวจสอบแล้วเป็นของคณะบุคคล สวัสดิการภายในศูนย์รักษาความปลอดภัย โดย พล.อ.อภิชิต กานตรัตน์ ถามว่าตกลงแล้วการให้สวัสดิการเช่นนี้ ให้กับคณะบุคคลทำธุรกิจ ได้ผลกำไรอย่างไรให้เขาจัดสวัสดิการเองใช่หรือไม่ นี่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเอาที่ดินรัฐให้คณะบุคคลซึ่งเป็นเอกชนใช้ แต่ได้กำไรอย่างไรไปจัดสวัสดิการกันเอง ทั้งๆ ที่เรื่องสวัสดิการของรัฐต้องเป็นหน้าที่ของรัฐดูแล ดังนั้น ถามว่า อะไรคือเส้นแบ่งคณะบุคคลซึ่งเป็นเอกชนกับผลประโยชน์ของรัฐ นอกจากนี้ให้เชิงอรรถไว้ด้วยว่า พล.อ.อภิชิต เคยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ขาย GT200 ให้กับกองทัพบกด้วย” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม อีก 2 กรณีตามสัญญาที่ให้ไว้เราเข้าไม่ถึงข้อมูล คือ กรณีบ้านพัก และซื้อปื้นสวัสดิการทหาร นอกจากนี้ ยังมีกรณีหลังเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช กองทัพได้ตั้งกรรมการ 2 ชุด ตรวจสอบเรื่องนี้ และจนถึงวันนี้ยังไม่มีเปิดเผยรายงาน เราทราบแต่เพียงว่าชุดหนึ่งที่มีกรณีผู้ร้องเรียนเข้าไป เปิดเผยทุจริตเบี้ยเลี้ยงในกองทัพ ซึ่งแทนที่กรรมการจะเอาเรื่องร้องเรียนไปตรวจสอบ และแก้ปัญหา กลับกลายเป็นว่าคนร้องเรียนกลับถูกข่มขู่ คุกคามเอาชีวิต

“เศรษฐกิจในกองทัพ กองทัพพาณิชย์ เป็นเหตุผลที่ทำให้นายทหารผู้ใหญ่พร้อมจะเป็นพันธมิตรกลุ่มอภิสิทธิ์ชน กับกลุ่มผู้มีอำนาจ เพราะสมประโยชน์ด้วยกัน ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจ ไม่แตะต้อง ทำเป็นมองไม่เห็น เป็นการพึ่งพากันระหว่างผู้มีอำนาจทางการเมืองกับกองทัพ กลุ่มอภิสิทธิ์ชนจึงปล่อยปละ ไม่แตะต้องผลประโยชน์กองทัพ และนั่นแลกมาด้วยผลประโยชน์ประชาชน และผลประโยชน์ที่รัฐควรได้ การปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกกองทัพพาณิชย์เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้กองทัพมีภารกิจที่ชัดเจน ซึ่งถ้าตัดเรื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจกองทัพออกไปได้ เขาจะไม่มีแรงจูงใจในการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะเข้ามาก็ไม่ได้อะไร เพราะไม่มีพาณิชย์ในกองทัพแล้ว” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวปิดท้ายว่า ตนอยากเชิญชวนประชาชนร่วมกันเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ อยากให้ติดตาม 1. ติดตามคำสัญญาของ ผบ.ทบ. 2. พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร และ 3. พ.ร.บ. แก้ไขวินัยการเงินการคลัง มาตรา 61 ซึ่งมาตรานี้อนุญาตให้กองทัพมีเงินนอกงบประมาณ จัดการบริหารเองโดยไม่ต้องผ่านสภา ซึ่งเงินนอกงบประมาณ 18,657 ล้าน นั้น เขารับมาเองจากสิ่งที่เราไม่เห็น สั่งจ่ายเอง ตรวจสอบไม่ได้ เราเสนอให้ยกเลิกมาตรานี้ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤษภา 35 พฤษภา 53 จนกระทั่งมาถึงกราดยิงโคราช หรือการทำรัฐประหาร เป็นเรื่องเดียวกันหมด กองทัพลอยนวล กองทัพไม่เคยรับโทษ กระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะรู้ว่ากฎหมายทำอะไรเขาไม่ได้ ดังนั้น นี่คือ เวลาของการสถาปนาอำนาจประชาชน ทำให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น