ข่าวปนคน คนปนข่าว
**รมว.คนไหนเอ่ย? ที่ “ลุงตู่” ว้ากไม่ต้องมาเดินตามแล้ว เบื้องหลังโบแดง จม.นายกฯ ถึงเจ้าสัว ขณะที่ พปชร.ไฟสุมขอน ส.ส.กลุ่มใหญ่ ร้องเช็กบิลกลุ่ม “ป่วน” พรรค จี้ตีความใบลาออกของ “ณัฏฐพล” และพวก มีผลแล้วหรือไม่
ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังกลุ่มก่อการ “ปฏิวัติเงียบ” มุกแป้กเมื่อผู้ใหญ่ไม่เล่นด้วย เหมือนกับทุกอย่างจะสงบ “จบที่ลุงตู่” ไปแล้ว ... แต่ล่าสุดกลุ่มคนที่อยากคุมอำนาจในพรรค เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง ยังเดินหน้าต่อ
มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า กลุ่มคนดังกล่าวยังพยายามไล่ล่า รวบรวม “ใบลาออก” ของกรรมการบริหารพรรคให้ได้ครบ 18 คน ตามข้อบังคับพรรคที่ระบุว่า ต้องได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 34 เสียง จึงจะส่งผลต่อเปลี่ยนแปลงได้ โดยเคลมว่าได้มาแล้ว 15 คน ขาดอีก 3 เสียง ซึ่งคนที่เซ็นใบลาออกนำร่องเป็นคนแรก ระบุว่าคือ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรค
ว่ากันว่า “เกมล็อบบี” ขอเสียงสนับสนุนจากกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ เป็นไปอย่างไม่หวาดหวั่นต่อเสียงทัดทานของเพื่อนสมาชิก ส.ส.กลุ่มใหญ่ในพรรคที่เห็นว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่ตะบี้ตะบันเล่นการเมืองเพื่อพวกพ้อง เพราะรัฐบาลยังต้องทำงานหนักแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ให้ประชาชนอยู่
ว่ากันอีกว่า แกนนำกลุ่มอย่าง “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรค ลงทุนลงแรงไปอย่างมาก นอกจากจะนำร่องเขียนใบลาออกแล้ว ยังแสดงออกให้กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกขั้วในพรรคได้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองที่จะขึ้นเป็นกลุ่มขับเคลื่อนพรรคได้ เพราะมีความใกล้ชิด ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ และคุยว่าที่ผ่านมาเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายความคิดของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
แว่วว่า ความเคลื่อนไหวไม่หยุดของ “กลุ่มณัฏฐพล” ดังกล่าวนี้ กำลังทำให้ ส.ส.กลุ่มใหญ่ภายในพรรค ต่อต้านอย่างหนักเช่นกัน เพราะอยากให้ความปั่นป่วนภายในพรรคสงบลงเสียที โดยก่อกระแสเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับกลุ่มก่อการ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีใบลาออกของ “ณัฏฐพล” และ กรรมการบริหารพรรค พปชร. ที่เซ็นใบลาออกคนอื่นๆ ที่อ้างว่า ต้องเก็บไว้เป็นความลับด้วย ต้องเปิดเผยออกมา และจะให้มีผลหรือไม่ อย่างไร เพื่อเปิดให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคขึ้นมาทดแทน
ส.ส.กลุ่มใหญ่ในพรรคต่างเห็นว่า ถ้าพรรคไม่ดำเนินการก็จะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ... ความเห็นส่วนใหญ่อยากให้พรรคมีระบบระเบียบที่เป็นมาตรฐาน ไม่ใช่มีบางคน บางกลุ่ม สร้างความสับสนสร้างปัญหาขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ตามระเบียบข้อบังคับพรรค เมื่อมีการยื่นใบลาออกจากกรรมการบริหาร จะต้องดำเนินการภายใน 45 วัน เพื่อเลือกกรรมการบริหารใหม่ทดแทน
ทีนี้ก็ต้องตั้งคำถามกับ “ณัฏฐพล” และพวกแล้วล่ะว่า เซ็นลาออกไปแล้วจะยังคงสภาพเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่อีกต่อไปหรือไม่ ?
กระแสความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรค พปชร. ตอนนี้พูดคุยกันว่า ไม่ใช่ปัญหาของพรรค แต่เป็นปัญหา “เพียง 3 คน” ที่ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่ง 3 คนนี้ อยู่ในบัญชีรายชื่อ และเป็นคนที่ยังไม่เป็นรัฐมนตรี แต่อยากเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น
ฟังว่าเรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากจะสะท้อนตัวตนของกลุ่มคนก่อการว่า ไม่รู้กาลเทศะ ตัวของ “ณัฏฐพล” ยังเกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างภายในพรรค ด้วยกันว่า เมื่อเร็วๆ นี้ รมว.ศึกษาฯ ถูกว้ากจาก “ลุงตู่” ว่า ไม่ต้องมาเดินตามต้อยๆ เป็นวอลเปเปอร์อีกแล้ว เพราะชอบหาแต่เรื่องมาให้ตัวเองและรัฐบาลโดนด่าตลอด
โดยเฉพาะ ผลงานชิ้นโบแดง จม.ขอความช่วยเหลือจากนายกฯ ถึงบรรดา “เจ้าสัว” เศรษฐีติดอันดับของเมืองไทยมากู้วิกฤตโควิด-19 ที่ว่ากันว่า เป็นฝีมือของ “ณัฏฐพล” ที่หมายมั่นปั้นมือโชว์พาว ส่งให้ลุงตู่ ออกสื่อแบบงงกันทั้งบาง
กะว่าจะยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ทั้งโดยหวังให้กลุ่มอื่นๆ เห็นถึงฝีมือ วิสัยทัศน์ และโชว์คอนเนกชันปึ้กกับบรรดาเจ้าสัว ต่อลุงๆ แต่กลับกลายเป็นถูกกระแสสังคม และฝ่ายค้านรุมกระหน่ำว่าเป็น “รัฐบาลขอทาน” รัฐบาลหยิบยื่นผลประโยชน์ต่างตอบแทนให้นายทุน จน “ลุงตู่” ต้องขอให้ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ออกมาเคลียร์ ลดกระแสสังคม เปลี่ยนไปอีกทางอย่างที่เห็นกัน
นี่จากจดหมายถึงเจ้าสัว มาถึงป่วนพรรค ที่มีชื่อเป็นคนแรกนำคนอื่นๆ ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เห็นชัดๆ นาทีนี้ “ณัฏฐพล” คือ คนที่ทำให้ “ลุงตู่” ปวดหัวยิ่งกว่ารับมือโควิด-19 ไปแล้ว...
**“ธนาธร” แอนด์เดอะแก๊ง คณะก้าวหน้า จะแจกเงินโควิดทั้งที ยังติดสัญลักษณ์ “2475” ฝักใฝ่แต่ทำลายล้างการเมือง ติ่งส้มตามกัด “เสี่ยโป้” เห็นต่าง เจอสวน “พ่อฟ้า” รวยกว่าเป็น 100 เท่าได้บริจาคบ้างมั้ย ?
เมื่อวันที่ 1-2 พ.ค.ที่ผ่านมา จากกรณีที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้จัดกิจกรรม “คอนเสิร์ตการกุศล MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน”...ให้ศิลปินอิสระซึ่งในช่วงนี้ไม่มีงานได้มาแสดงดนตรี พร้อมเปิดระดมทุนเพื่อช่วยเหลือลูกจ้างและอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวนรายละ 3,000 บาท โดยไม่ต้องพิสูจน์หลักฐานอื่นๆ เพียงแค่ให้ระบุรหัส ชื่อ-สกุล เลขที่บัญชีธนาคาร และเหตุการรับเงินเท่านั้น
กิจกรรมนี้ของ “คณะก้าวหน้า” ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซเชียล ว่า “ธนาธร” และคณะก้าวหน้า กลืนน้ำลายตัวเอง ตัวธนาธรเคยออกมาวิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่แจกเงิน หรือเยียวยาประขาชน แล้วทำไมมาทำเอง
“ธนาธรและพวกคณะก้าวหน้า” พยายามเน้นว่า เป็นเพียงสื่อกลางที่ระดมทุนเข้ามาเพื่อส่งต่อให้เท่านั้น โดยยอดบริจาคได้มาเท่าไหร่ ก็ส่งมอบให้ไปตามนั้น เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท แต่คำถามก็คือ “ธนาธรและพวก” บริจาคด้วยหรือไม่ ?
ชาวเน็ตยังถามกันมามากว่า ธนาธรรวยเป็นหมื่นล้าน และบริจาคให้พรรค และให้ยืมเงิน 100-200 ล้าน จนเกิดคดีพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ งานนี้ให้เท่าไหร่
ที่หนักสุดเห็นจะเป็นว่า แม้แต่จะแจกเงินช่วยเหลือชาวบ้าน ยังไม่วายอคติ จิตใจคั่งแค้น ยังเดินเกมทางการเมืองอิง “คณะราษฎร” โดยใช้ รหัส 24 75 เป็นเงื่อนไขในการแจกเงินครั้งนี้
โดย ธนาธร ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า แจกเงินช่วยเหลือโดยไม่ต้องพิสูจน์ความจน วิธีการขอรับเงินรอบแรก ดังนี้ วันแรกรอบแรก ระบุรหัส “24” วันที่สอง หรือรอบสอง ให้ระบุรหัส “75” และคำว่า “ขอรับสิทธิ์เงินเราช่วยกัน”
เป็นที่ทราบกันดีว่า รหัส 2475 ที่ ธนาธรและคณะก้าวหน้า คิดเป็นเงื่อนไขขอรับสิทธิ์ คือ สัญลักษณ์ของคณะราษฎร เมื่อปี 2475
“ธนาธร” นั้น ฝังใจจำและเคยกล่าวถึงความสำคัญของเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นประชาธิปไตยในปี 2475 ไว้ว่า
“…อีกความหมายของ 2475 คือ ความเป็นสมัยใหม่ ปี 2475 เป็นปีที่กลุ่มคนชั้นสูง ลูกขุนนางได้เดินทางไปศึกษาในประเทศตะวันตกซึ่งเปลี่ยนสังคมเป็นสมัยใหม่ในแบบที่มนุษย์เปลี่ยนความคิดที่เดิมอยู่ใต้ธรรมชาติ ไปสู่การควบคุมธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี นับถือการใช้หลักเหตุผล ในด้านการเมืองก็เปลี่ยนอำนาจจากจารีต เป็นอำนาจจากพลเมือง เปลี่ยนฐานันดร เป็นความเท่าเทียม เปลี่ยนชีวิตที่เดิมเป็นของเจ้านาย กลายเป็นชีวิตของตัวเอง การเกษตรสู่พาณิชย์และอุตสาหกรรม”
“วันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน เป็นพลเมืองที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนา ในขณะเดียวกัน ก็เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น พลเมืองต้องเข้มแข็ง มีศักยภาพ หากแต่ตลอด 87 ปีที่ผ่านมา การสถาปนาอำนาจของพลเมืองยังไม่จบ ยังมีกลุ่มอภิสิทธิชน ที่มีสิทธิมีเสียงเหนือกว่าประชาชนพลเรือนคนอื่น ยังมีเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ ยังถูกคุกคาม ถูกละเมิด นี่คือผลจากการที่เราไม่ช่วยกันปกป้องการอภิวัฒน์ หน้าที่พลเมืองที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ต่อต้านการรัฐประหาร และปกป้องประชาธิปไตย...”
แล้ว “ธนาธร” และคณะ ก็ใช้เป็นแนวทางการต่อสู้ทางการเมืองของอดีตพรรคอนาคตใหม่ พยายามเปรียบเทียบการต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนกับคณะราษฎร และจึงไม่แปลกที่การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าว แม้แต่การ “แจกเงิน”ครั้งนี้ ก็ยังเล่นเกมการเมืองอยู่นั่นเอง
ด้านหนึ่งโซเชียลวิจารณ์ธนาธร อีกด้านหนึ่ง “ติ่งส้ม” ผู้สนับสนุนธนาธรและพวก ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ พาฝูงซอมบี้ไล่ถล่มคนเห็นต่าง !!
ยกตัวอย่าง “เสี่ยโป้ อานนท์” หรือ อภิรักษ์ ชัยอานนท์ เน็ตไอดอลชื่อดัง โดนไปเต็มๆ ถึงกับต้องไปโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ จากเพจอื่น ระบุว่า “ช่วยผมด้วยครับ เละเลย แค่ไม่บริจาคให้มัน”
ทั้งนี้ ช่วงที่คณะก้าวหน้าจัดกิจกรรม ก็มีบรรดา “ติ่งส้ม” มารบเร้าขอให้ “เสี่ยโป้” บริจาคเงินให้ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช เป็นจำนวนหลักล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นคนมีเงิน ซึ่งรบกวนเวลานอนทำให้เสี่ยโป้ไม่พอใจ เมื่อเสี่ยโป้ โพสต์ข้อความก็ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนธนาธร ต่างเข้าไปถล่มเป็นจำนวนมาก
“เสี่ยโป้” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ผมอยากช่วยตรงไหนผมไปช่วยเอง ผมไม่ขอรับบริจาคใคร และก็ไม่ต้องมาขอให้ผมบริจาค ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ นักศึกษา เด็ก คนรุ่นใหม่ มาขอให้ผมบริจาคให้กลุ่มก้าวหน้า ธนาธร ผมขอไม่บริจาคนะครับ สิทธิส่วนตัว ธนาธรมีเงินมากกว่าผมเป็นร้อยเท่า และการเปิดรับบริจาคแบบนี้ ธนาธรเคยลั่นวาจาว่าการแจกเงินเป็นการส่งเสริมให้คน ... แล้วก็มาทำ ก็เหมือนถ่มน้ำลายใส่หน้าตัวเองครับ” แต่กระนั้น “เสี่ยโป้” ก็โพสต์สลิป ที่ระบุว่า ได้บริจาคเงินเข้าบัญชี น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เป็นเงิน 1 บาทมาด้วย
งานนี้ก็ต้องรอดู ธนาธรและพวกพ้องเหล่าบรรดาเซเลบของคณะก้าวหน้า จะว่ายังไง ?
