“ดร.นิว” จวกเละ “ธนาธร” ได้กระแสจัง ตังค์อยู่ครบ หลอกลวงประชาชน รองโฆษก พปชร.แฉกลืนน้ำลายตัวเอง เคยวิจารณ์รัฐบาลขอทาน ด้าน “เสี่ยโป้” หงุดหงิดหนักมาก “ติ่งส้ม” อ้อนไม่ได้นอน ย้อนเจ็บเขารวยกว่าผม 100 เท่า
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 พ.ค. 63) เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ “คณะก้าวหน้า” จัดกิจกรรมไลฟ์สด “คอนเสิร์ตระดมทุน #MAYDAYMAYDAY เราช่วยกัน” พร้อมกับเปิดรับระดมทุน เพื่อจะส่งมอบต่อเงินช่วยเหลือดังกล่าวให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนและขอรับสิทธิจำนวน 3,000 บาท โดยระบุว่า “#MAYDAYMAYDAY ครอบครัวของเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
สิ่งที่คนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินได้รับ...
1. ได้กระแสจัง ตังค์อยู่ครบ แถมสอดแทรกการปลุกระดม 2475
2. ได้ยอดไลก์เพจคณะกาวหนา #คนดูหลักล้านแต่แจกแค่หลักร้อย
3. ได้รายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารของคนจำนวนมหาศาล
สิ่งที่คนเดือดร้อนเรื่องเงินได้รับ...
1. ความหวังที่มาพร้อมกับความเสี่ยงของข้อมูลส่วนตัว
2. ความผิดหวังที่มีคนได้รับเงินเพียงแค่ "ไม่กี่คน"
ไม่ใช่แบบที่พูดโปรโมทตอนแรกในวิดีโอว่า "ช่วยเหลือทุกท่าน"
3. ได้รู้ว่าประชาธิปไตยในความหมายของเสรีภาพและความเท่าเทียมกันของใครบางคนบางกลุ่มไม่ได้มีอยู่จริง
- เสรีภาพจอมปลอม - ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจริงเพราะสโลแกนที่กำกวมในตอนต้นราวกับว่าขนเงินจากบริษัทมาไล่แจกกันง่ายๆแบบคืนกำไรสู่สังคมเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท
“ผู้ที่เดือดร้อนรับได้เลยทันทีอย่างถ้วนหน้า 3,000 บาทไม่ต้องพิสูจน์ความจน” #โฆษณาเกินจริงหลอกลวงผู้บริโภค
- ความเท่าเทียมจอมปลอม - คนเข้ามาขอรับเงินจำนวนมหาศาล แต่ได้เงินแค่หลักร้อยคน #ไหนว่าทุกคนเท่าเทียมกัน
- ความโปร่งใสของขี้โกหก - แทนที่จะเปิดบัญชีเฉพาะกิจขึ้นมารับบริจาคเพื่อความโปร่งใส แต่ก็ดันเอาบัญชีของคนขี้โกหกมารับบริจาคอีก #1mdbภาคสองของช่อที่โม้ไว้อยู่ที่ไหน
#ครอบครัวของเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
#ครอบครัวที่มาอาศัยทำกินบนแผ่นดินไทยจนร่ำรวยเป็นหมื่นล้าน
#ไหนใครบ้างที่ไม่ได้รับเงิน 3,000 บาท
อ้างอิง...https://www.youtube.com/watch?v=rcoo09KafLc
ทั้งนี้วันเดียวกัน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีคณะก้าวหน้า โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำจัดคอนเสิร์ตระดมทุนเพื่อนำเงินมาบริจาคให้กับประชาชนรายละ 3,000 บาทว่า
เรื่องนี้ทำให้สังคมมองเห็นว่าสิ่งที่นายธนาธรทำนั้นมักเป็นสิ่งที่เคยวิจารณ์ผู้อื่นว่าทำไม่ดีมาก่อน แต่สุดท้ายนายธนาธรกลับลอกเลียนวิธีการและทำแบบนั้นเสียเอง และนายธนาธรยังเอาหน้าโดยไม่ลงทุน เพราะแจกเงินเฉพาะที่ตนเองได้รับบริจาคมาเท่านั้น ไม่ปรากฏยอดบริจาคจากนายธนาธรแม้แต่เพียงบาทเดียว นายธนาธรกำลังกลืนน้ำลายตัวเอง จำสิ่งที่ตนเองวิจารณ์ไม่ได้เลย ทำทุกอย่างตามที่เคยได้วิจารณ์ผู้อื่นไว้
“นายธนาธรวิจารณ์รัฐบาลที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถทางการเงินบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นว่าเป็นรัฐบาลขอทาน แต่สุดท้ายนายธนาธรก็ทำการเรี่ยไรเงินเสียเอง นายธนาธรเคยวิจารณ์ว่ารัฐบาลแจกเงินเพื่อเยียวยาความทุกข์ร้อนเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่สุดท้ายนายธนาธรก็แจกเงินเสียเองเพื่อเพิ่มยอดผู้ชมคอนเสิร์ตที่มีเพียงประมาณห้าพันคนในวันแรก นายธนาธรวิจารณ์ว่าการลงทะเบียนรับสิทธิ์ของรัฐบาลเป็นการกีดกั้นผู้ที่ไม่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต แต่สุดท้ายนายธนาธรกลับกีดกั้นและสร้างความเหลื่อมล้ำเสียเอง แจกเงินเฉพาะผู้ที่เข้าถึงเฟซบุ๊กเพจคณะก้าวหน้า
นายธนาธรวิจารณ์ว่ารัฐบาลช่วยเหลือประชาชนไม่ทั่วถึง แต่สุดท้ายนายธนาธรก็แจกเงินไม่ทั่วถึงเช่นกัน เพราะวันแรกแจกเพียง 351 คน และเมื่อวานนี้ (วันที 2 พ.ค.) ก็มีคนหลักล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากนายธนาธร
นอกจากนี้ ระบบคัดกรองผู้ได้รับการช่วยเหลือจากนายธนาธร ก็อาจไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความเท่าเทียม ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ จะได้เฉพาะผู้ที่มีความว่องไว ลงทะเบียนก่อน เข้าถึงอินเทอร์เน็ต และติดตามเฟซบุ๊ก กีดกันโอกาสผู้สูงอายุ คนรากหญ้า คนทำงานที่ไม่สามารถเข้าถึงเฟซบุ๊กในเวลานั้น เพราะต้องทำงาน ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้”
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กกลุ่ม “นั่งอยู่บ้าน วิจารณ์ธนาธร” ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เสี่ยโป้ อานนท์” ของนายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ เน็ตไอดอลชื่อดัง โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ ระบุว่า “ช่วยผมด้วยครับ เละเลย แค่ไม่บริจาคให้มัน” ขณะที่สมาชิกในกลุ่มต่างให้กำลังใจเสี่ยโป้ และต่างก็แซวว่า เสี่ยโป้กลายเป็นสลิ่มเพราะไม่บริจาคให้นายธนาธร (คำว่าสลิ่ม เป็นคำพูดที่สร้างความเกลียดชัง หรือ Hate Speech ที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายธนาธร และกลุ่มผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เหยียดผู้อื่นที่เห็นต่างจากตน)
โดยพบว่า ก่อนหน้านี้ เสี่ยโป้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ผมอยากช่วยตรงไหนผมไปช่วยเอง ผมไม่ขอรับบริจาคใคร และก็ไม่ต้องมาขอให้ผมบริจาค ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ นักศึกษา เด็ก คนรุ่นใหม่ มาขอให้ผมบริจาคให้กลุ่มก้าวหน้า ธนาธร ผมขอไม่บริจาคนะครับ สิทธิส่วนตัว ธนาธร มีเงินมากกว่าผมเป็นร้อยเท่า และการเปิดรับบริจาคแบบนี้ ธนาธรเคยลั่นว่า การแจกเงินเป็นการส่งเสริมให้คน ... แล้วก็มาทำก็เหมือนถ่มน้ำลายใส่หน้าตัวเองครับ” ภายหลังพบว่ายังได้บริจาคเงินเข้าบัญชี น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เพียงแค่ 1 บาทเท่านั้น
สำหรับสาเหตุที่เสี่ยโป้ไม่พอใจดังกล่าว เนื่องจากในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตของคณะก้าวหน้า ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายธนาธรจำนวนมากต่างเข้าไปส่งข้อความส่วนตัว รบเร้าให้เสี่ยโป้บริจาคเงินให้ น.ส.พรรณิการ์เป็นจำนวนหลักล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นคนมีเงิน ซึ่งรบกวนเวลานอน ทำให้เสี่ยโป้ไม่พอใจ เมื่อเสี่ยโป้โพสต์ข้อความก็ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนนายธนาธรต่างเข้าไปถล่มเป็นจำนวนมาก (ข่าวผู้จัดการออนไลน์)
ทั้งหมดทำให้เห็นภาพสะท้อนซ้ำซากของกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ ที่มักทำงานการเมืองเพื่อเป้าหมายทางการเมืองเท่านั้น ไม่สนใจความทุกข์ ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าเรื่องอะไร และไม่เลือกแม้ยามวิกฤตด้วยซ้ำ
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น คือ การโหนกระแสวิกฤตโควิด 19 เล่นการเมืองแบบทำดีเอาหน้า หาผลประโยชน์บนความทุกข์ ความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การใช้รหัสขอรับเงิน สองวัน 24, 75 ซึ่งเป็นปี พ.ศ.ที่คณะราษฎรทำการปฏิวัติ ซึ่งส่อว่าคือจุดยืนการเมืองพวกตน การรับบริจาคเงินเพื่อแจกเงินโดยที่ตัวเองไม่ต้องควักกระเป๋า ซึ่งมีแต่ได้กับได้ รวมทั้งวิธีการดังกล่าวก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่สามารถช่วยคนที่ต้องการเงินได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่สนใจ ขอเพียงให้ได้ชื่อว่า ทำดีกว่ารัฐบาล “ไม่ต้องพิสูจน์ความจน”
แน่นอน, สิ่งที่ทุกคนวิจารณ์ จึงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพียงแต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้สนใจเช่นกัน เพราะเขาเชื่อว่ามี “ติ่ง” ของเขาจำนวนหลายล้านคนที่คอยสนับสนุนทุกกิจกรรมอย่างเชื่องเชื่ออยู่แล้วนั่นเอง