เข้าทางเต็มๆ! “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” อาลัย “ปลายฝน” สุดซึ้ง “อัษฎางค์” ให้คาถาพระรอด “ความตายน่ากลัวที่สุด”

“ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” ไม่พลาด! เกมมาเข้าทางเต็มๆ กรณี “ปลายฝน” วาดภาพ “ลุงตู่” ก่อนผูกคอตาย ประชดชีวิต ผู้พี่ถึงกับมีชื่อเจ้าภาพสวดอภิธรรม ด้าน “อัษฎางค์” ให้สติเมื่อจมอยู่กับความทุกข์ ท่องไว้ “ความตายน่ากลัวที่สุดในชีวิต”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (30 เม.ย. 63) เฟซบุ๊ก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แฟนคลับ @yingluckfanclub และ Yingluck Shinawatra FC @yingluckthai2 ใจตรงกัน ต่างแชร์โพสต์เฟซบุ๊ก The Reporters เพื่อเป็นการไว้อาลัย น.ส.ปลายฝน อ่ำสาลิกา ที่ผูกคอตาย

โดยเนื้อหาระบุว่า “อาลัยต่อการจากไป แด่..น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา (อายุ 20 ปี) ผูกคอตาย เมื่อ 28 เมษายน 2563

“คนจน ยิ่งจน ยากจน เพราะ คนร่ำรวย
ร่ำรวย เพราะ คนยากจน สร้างให้รวย
คนดีต้องตาย เพราะเหล่าร้าย
พวกเหล่าร้าย เขียนกฎหมาย ให้คนร้ายเป็นคนดี หลายสิ่งที่เป็น แต่ที่เห็น เป็นภาพลวง
เป็นภาพหลอน เฉกเช่นหนอนกลายเป็นเกลือ”

#ประโยคบอกเล่าด้วยความท้อใจของกู

ข้อความจากเฟซบุ๊ก Pvlia Cyhfaoin ของ น.ส. #ปลายฝน อ่ำสาริกา ที่โพสต์ภาพวาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา #นายกรัฐมนตรี ตัดพ้อในโชคชะตาชีวิต ที่วาดรูปทั้งน้ำตา #เพราะไม่เหลือเงินซื้อนมให้ลูกกิน กลายเป็นเรื่องเศร้า ที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ก่อนที่ น.ส.ปลายฝน ต้องจบชีวิตลงด้วยความเศร้า

นอกจากข้อความสะท้อนความรู้สึกในชีวิต ผ่านภาพวาดและความรู้สึกแล้ว ข้อความทิ้งท้าย ของ น.ส.ปลายฝน ยังสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ระหว่าง คนจน คนรวย คนร้าย คนดี ภาพลวง ภาพหลอน และ เรื่องของ หนอนกลายเป็นเกลือ ที่เชื่อว่า น.ส.ปลายฝน หวังจะให้สังคมมองเห็น รากเหง้าของปัญหานี้

แด่..ปลายฝน อ่ำสาริกา

อย่างไรก็ตาม จากกรณีการผูกคอตายของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อาชีพ รปภ. อายุ 20 ปี โดยก่อนเสียชีวิต น.ส.ปลายฝน ได้วาดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความตัดพ้อต่อโชคชะตาชีวิตนั้น

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้สั่งการให้ พมจ.ฉะเชิงเทรา ไปพบญาติของ น.ส.ปลายฝน ทันที เพื่อร่วมแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น และให้ความช่วยเหลือ

นายจุติ กล่าวว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของ น.ส.ปลายฝน จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวต่อไป ส่วนลูกนั้นก็ให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนดูแล สามารถเรียนหนังสือจนจบอายุ 18 ปี รัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้องที่มีความเครียดกับปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ รัฐบาล และ พม.นั้นเป็นเพื่อนท่าน ท่านมีปัญหากรุณา โทร. 1300 หรือ 1323 ให้คำปรึกษาได้ทุกเวลา เราเป็นเพื่อนท่าน เรารอท่านอยู่

สำหรับศพของ น.ส.ปลายฝน ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

The Reporters ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างสุดซึ้ง

#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #COVID19 #โควิด19”

ขณะเดียวกัน วันนี้ พบว่า ที่บอร์ดรายชื่อเจ้าภาพสวดอภิธรรมงานศพของ น.ส.ปลายฝน พบรายชื่อของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 1 พ.ค. 63 รวมอยู่ด้วย

โดยมีรายงานว่า นายคงกฤช หงษ์วิไล อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคพลังประชาชน เป็นผู้มาเขียนรายชื่อ เจ้าตัวบอกว่ามาในนามของ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยนำพวงหรีดมามอบให้ รวมถึงเงินช่วยเหลือและสิ่งของจำนวนหนึ่ง สำหรับการใช้ชื่อ นายทักษิณ ไม่ได้ต้องการให้เป็นเรื่องการเมือง ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน


ที่น่าสนใจไปกว่านั้น วันนี้ (30 เม.ย.) มีรายงานข่าวระบุว่า ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพข้อมูลการตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนมาตรการเยียวยาฯ ของ น.ส.ปลายฝน

พบว่า มีสถานะ “ได้สิทธิมาตรการเยียวยา 5,000 บาท” โดยได้รับเงินครั้งที่ 1 ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ไปเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า เหตุที่ น.ส.ปลายฝน ได้รับเงินเยียวยา เนื่องจากนายจ้างยังส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด

สอดคล้องกับที่ นายพร อ่ำสาริกา ตาของ น.ส.ปลายฝน ระบุว่า หลานสาวมีอาชีพรับจ้างส่งนมใน จ.ฉะเชิงเทรา แต่เนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้ จึงมีอาการแพ้แดดและเป็นลมจากความเหนื่อยล้าจนต้องไปสมัครทำงานเป็น รปภ. ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางแค ตามการชักชวนของแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4-5 เดือน

ขณะที่รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ระบุว่า จากการสอบสวน นายวิชัย เหมหึม แฟนหนุ่มของผู้ตาย ระบุว่า น.ส.ปลายฝน บอกว่า จะผูกคอตาย จึงรีบกลับมาที่ห้อง แต่ก็พบ น.ส.ปลายฝน ใช้เชือกสายนกหวีดผูกคอกับคานประตูเสียชีวิต ส่วนผลชันสูตรศพแพทย์ระบุว่า เกิดจากขาดอากาศหายใจ ส่วนภาพวาดของนายกรัฐมนตรีนั้น ผู้ตายได้โพสต์ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบภาพวาดดังกล่าว และเมื่อถาม นายวิชัย ก็ระบุว่า น.ส.ปลายฝน เป็นผู้วาดภาพดังกล่าวเอง แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่าภาพนั้นอยู่ที่ใด

นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า น.ส.ปลายฝน เป็นโรคประจำตัวเกี่ยวกับอาการแพ้สารอาหารบางตัว เคยพยายามทำร้ายตัวเองมาก่อนหน้านี้ ก่อนเกิดเหตุอาการเครียดมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากต้องหยุดงาน เพราะมีไข้ขึ้นสูง ทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ขาดรายได้ อีกทั้งยังกลับไปหาลูกที่จังหวัดฉะเชิงเทราไม่ได้ เชื่อว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายเกิดจากความเครียดเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ
และที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ก็คือ เฟซบุ๊ก อัษฎางค์ ยมนาค ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ที่โพสต์ข้อความระบุว่า

“ชีวิตของคุณ...
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรือใคร
แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองมุมไหน
ก้มมองตัวเองให้ดีๆ ว่าเรายังโชคดีกว่าใครอีกหลายคน

ความตายคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต
ถ้ากล้าตายได้ !!
ทำไมไม่กล้าลุกขึ้นสู้
............................................................................

ผมอยากบอกเรื่องนี้ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

แต่ต้องการให้กำลังใจ กับใครต่อใคร ที่กำลังจมทุกข์

จงบอกกับตัวเองเอาไว้ว่า วิกฤตโควิดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราคนเดียว หรือครอบครัวเราครอบครัวเดียว

แต่มันเกิดขึ้นกับคนทั่วโลก มีคนร่วมชะตาแบบเรา “ทั้งโลก”

ท่องเอาไว้
ความตายคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต
ถ้ากล้าตายได้ !!
ทำไมไม่กล้าลุกขึ้นสู้

ชีวิตเป็นของเรา
อย่าเอาชีวิตของเราไปฝากไว้กับใคร

ใครทำไม่ดียังไง แต่เราจะทำชีวิตของเราให้ดี
เราจะเอาชีวิตของเราให้รอด

เพื่อตัวเราเอง เพื่อพ่อแม่ของเราเอง
และเพื่อลูกของเราเอง

มีเช้า เดี๋ยวมันก็ต้องมืด
พอมืด เดี๋ยวพอเช้า มันก็จะสว่าง
วนเวียนไม่มีวันจบสิ้น

เหมือนชีวิตของคนเรา
มีขึ้น ก็ต้องมีลง
มีตกต่ำได้ มันก็ขึ้นได้

ไม่ว่ามันจะ “ดี” หรือ “ร้าย”
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
ไม่ว่าทุกข์ หรือสุข
ไม่ว่า ดี หรือ ร้าย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา

มันจะผ่านไปในที่สุด

ท่องมันเอาไว้

“เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”

สู้ๆ”

สิ่งที่ต้องแยกแยะจากโพสต์ทั้งหมด ก็คือ การเล่นเกมทางการเมือง กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แน่นอน, เกิดการผูกคอตายจริง และวาดรูป “ลุงตู่” จริง จมอยู่กับทุกข์จริง แต่ว่า ได้รับการเยียวยาแล้ว 5,000 บาท (เรื่องนี้ข่าวจากสื่อฝ่ายค้านหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง) นั่นแสดงว่า การผูกคอตายมีความเครียดจากหลายอย่างคละเคล้ากัน และไม่อาจชี้ชัดว่า เป็นเพราะลุงตู่ที่หลักฐานคือ รูปวาด หรือรัฐบาลเท่านั้น?

ส่วนเกมการเมือง แน่นอน, ถือว่า ภาพวาด “ลุงตู่” เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ต้องการมานานแล้ว เพราะแม้แต่เข็นงานวิจัยสุกเอาเผากินของนักวิชาการ “7 เทพยุทธ์” ถล่ม “ลุงตู่” มาเป็นตัวปั่นกระแสก็ทำมาแล้ว ติดว่า “สุดห่วย” จึงถูกด่ายับ พับโครงการไม่เป็นท่า ครั้งนี้ถือว่า บังเอิญส้มหล่นทับ ไม่ต้องทำอะไร เกมก็มาเข้าทางเต็มๆ

จึงอย่าได้แปลกใจ ที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ไม่พลาดร่วมอาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมันคือการตามน้ำที่มีแต่ได้กับได้ ทั้งนั้น