“ส.ว.คำนูณ” เผย “ประมนต์” ยืนยัน SCG และ โตโยต้าลิสซิ่ง จะไม่ขอความช่วยเหลือจากกองทุน BSF ของแบงก์ชาติ ให้ซื้อหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน บริษัทละกว่า 2 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ที่จะช่วยเหลือตัวเองก่อน เพราะเป็นเครดิตของบริษัท
วันนี้ (25 เม.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในแฟนเพจ คำนูณ สิทธิสมาน เมื่อเวลา 13.39 น. ถึงความคืบหน้ากรณีที่เสนอแนะให้มหาเศรษฐีที่ได้รับจดหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้แสดงความประสงค์ที่จะช่วยชาติในช่วงวิกฤตจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการควักเงินส่วนตัวซื้อหุ้นกู้ของบริษัทในเครือที่ครบกำหนดไถ่ถอน โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (BSF) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.ก.จำนวน 4 แสนล้านบาท ว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จาก นายประมนต์ สุธีวงศ์ กรรมการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การตั้งกองทุน BSF ของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นการตั้งทำนบเป็นด่านสุดท้ายไว้ เพราะตลาดหุ้นกู้มีปัญหาทั่วโลก แต่ในทางปฏิบัติเชื่อว่าบริษัทใหญ่ๆ ในไทยจะพยายามช่วยตัวเองให้มากที่สุด ไม่ขอเข้าโครงการรับความช่วยเหลือจากกองทุน BSF ง่ายๆ เพราะจะเป็นเครดิตของบริษัทเอง
ทั้งนี้ นายประมนต์ ยืนยันว่า ได้รับทราบจากผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทที่ตนเกี่ยวข้องอยู่ 2 บริษัท คือ ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) และ โตโยต้าลิสซิ่ง (TLT) ที่หุ้นกู้จะครบกำหนดในปี 2563 มีมูลค่า 25,000 ล้านบาท และ 20,720 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งทั้ง SCG และ TLT มีศักยภาพที่จะช่วยตัวเองได้ จะไม่ขอเข้าโครงการกองทุน BSF ของธนาคารแห่งประเทศไทย
รายละเอียดข้อความในเฟซบุ๊ก