xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ สมช.แย้มเตรียมถกผ่อนปรนสัปดาห์หน้า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ดีขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) (ภาพจากแฟ้ม)
เลขาฯ สมช.เผยกลางสัปดาห์หน้าประชุม แย้มอาจมีมาตรการการผ่อนปรนหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ดีขึ้น แต่คำนึงทุกประเด็น รวมถึงภาคเศรษฐกิจ โยนทั้งหมดให้ “บิ๊กตู่” ตัดสิน

วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์ในการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า ในสัปดาห์หน้า ประมาณวันพุธที่ 22 เม.ย.หรือ พฤหัสบดีที่ 23 เม.ย.จะมีการประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์และดูอีกครั้งว่าจะทำอะไรอย่างไรและจะผ่อนคลายอย่างไร

เมื่อถามว่า ดูแนวโน้มของสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า แนวโน้มก็ดี ตัวเลขการติดเชื้อก็ดีขึ้น

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะต่ออายุ พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ต้องดูหลายๆ อย่าง ขณะนี้ยังตอบไม่ได้

เมื่อถามว่า จะต่อไปถึงอีก 1 เดือนหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เรื่องการต่อหร่อไม่ต่อ ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ มาตรการที่เราออกมา อาจจะมีการผ่อนคลายลงบ้าง ซึ่งต้องถามประชาชนว่าควรจะเป็นอย่างไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า อาจอนุญาตให้มีการเปิดร้านตัดผม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เลขาฯ สมช.กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรนอยู่ในข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เราก็ให้อำนาจกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะไปดูในแต่ละท้องที่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นการผ่อนปรนมากหรือน้อยต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด และผู้ว่าฯ จะตัดสินใจอีกครั้ง

เมื่อถามว่า มาตรการผ่อนปรนจะแตกต่างกันในแต่ละจังหวัดใช่หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวปฏิเสธว่า
ไม่ใช่ มาตรการที่เข้มข้นแต่ละจังหวัดส่วนใหญ่เหมือนกัน แต่อาจมีรายละเอียดแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราจึงจะต้องมาดูภาพรวมอีกครั้ง และหากมีข้อแนะนำก็จะเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ก็ต้องมานั่งดูอีกครั้งหนึ่งเพราะบางจังหวัดก็ทำได้ดีอยู่แล้ว จำนวนผู้ป่วยก็ไม่มี จึงต้องมีหลายๆ อย่างนำมาพิจารณาประกอบกัน

“สรุปแล้วจึงต้องดูภาพรวมทั้งประเทศและดูมาตรการของแต่ละจังหวัดมาประกอบกันอีกครั้งหนึ่ง จึงจะตอบได้ว่าเราจะผ่อนปรนมากหรือน้อยอย่างไร หรืออาจจะคงไว้ในลักษณะนี้เหมือนเดิม” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวเลขของคนไทยที่ข้ามมาจากมาเลเซีย อาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสวิงสูงเพิ่มขึ้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ก็อย่างที่กล่าวไว้ว่าเรื่องนี้มีวิธีดูหลายแบบคือจะต้องดูทั้งประเทศหรือเป็นพื้นที่ หรือจะดูเป็นมาตรการ ทั้งนี้ ก็ต้องไปนั่งคุยกันอีกครั้ง แต่คงมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจะรวมถึงเรื่องของเคอร์ฟิวด้วยหรือไม่ เลขา สมช.กล่าวว่า ทั้งหมด จะเคอร์ฟิวหรือไม่เคอร์ฟิว หรือ เคอร์ฟิวมากขึ้นหรือน้อยลงก็ต้องดูกันทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแสดงว่าจะไม่มีการยกเลิกเคอร์ฟิวใช่หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ต้องหารือกันอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนในแง่ของการควบคุมโรค ก็เป็นอีกแง่หนึ่ง แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงเพิ่มเติมคือเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นเรื่องของปากท้องก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งต้องหาจุดลงตัวที่เหมาะสม

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงจะออกมาครั้งเดียวเลยหรือไม่หรือเป็นการทยอยออก พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล อยู่ระหว่างการรวบรวมอยู่ ต้องไปดูที่ตัวข้อมูลที่แท้จริง จึงจะสามารถชี้ได้เองว่าเราจะจัดการเป็นพื้นที่หรือเป็นเฟสหนึ่งผ่อนปรนแค่นี้ เฟสสอง เฟสสาม อันนี้ก็ต้องไปดูอีกครั้งยังตอบไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำตัวเลขของคนที่ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิวมาประกอบการพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า จุดนี้ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือตัวเลขผู้ติดเชื้อมากกว่าที่จะเป็นปัจจัยสำคัญ ความสามารถในการควบคุมโรค ความสามารถในการรักษา คนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและถูกจับก็ว่าไปตามกฎหมาย ก็เป็นแค่จำนวนน้อยไม่ได้มากอะไร

เมื่อถามว่า ความชัดเจนจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าเลยใช่หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ยัง เมื่อตนประชุมเสร็จก็จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกฯจะไปชั่งน้ำหนักเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะประชุมพิจารณาชั่งน้ำหนักเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี


กำลังโหลดความคิดเห็น