เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม นำ 5 พันรายชื่อช่างผม ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ ก.คลัง ระบบปฏิเสธรับเงินเยียวยา 5 พัน ชี้ ใช้อำนาจขัด รธน.เข้าข่ายเลือกปฏิบัติ ฉุนปิดประตูใส่ ปชช. นายก ส.ช่างผม วอนเจ้าของที่ช่วยลดค่าเช่าร้าน
วันนี้ (15 เม.ย.) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม นางกุสิสรา พานิช นายกสมาคมช่างผมมืออาชีพแห่งประเทศไทย นำรายชื่อสมาชิกสมาคมฯจำนวน 5,126 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดร้านเสริมสวยและลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 พันบาทผ่านเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่าเป็นเกษตรกร หรือบางคนเป็นนักศึกษา จึงต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว โด ยนายรณรงค์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวของภาครัฐเป็นการใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทั้งที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ประกาศครอบคลุมทุกพื้นที่ บังคับใช้กับทุกคนจึงไม่จำเป็นต้องมีการอุทธรณ์ ส่วนการอ้างว่าเป็นการพิจารณาของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต้องการให้ผู้ตรวจฯดำเนินการตรวจสอบว่าการดำเนินการของ AI รวมทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังเกิดความผิดพลาดในการใส่ข้อมูล จนทำให้ประชาชนถูกปฏิเสธหรือไม่ รวมทั้งหากความผิดพลาดดังกล่าวมาจากกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การถูกระบุว่าเป็นเกษตรกร โดยที่บุคคลนั้นไม่เคยรู้เรื่อง และมีการนำข้อมูลนั้นไปเบิกงบอื่นๆ ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ก็ขอให้ดำเนินการกับคนที่เอาข้อมูลเท็จดังกล่าวไปเบิกเงินภาษีประชาชนมาใช้ทั้งที่บุคคลนั้นไม่ได้รับเงินดังกล่าว
“การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเราจะชนะไปด้วยกัน เราจะชนะได้อย่างไรถ้าเราไม่มีอาหารกิน” นายรณรงค์ กล่าวและว่า รับไม่ได้กับการที่ปลัดกระทรวงการคลังสั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดประตูใส่หน้าประชาชนที่ไปเรียกร้องเงินเยียวยาเมื่อวานที่ผ่านมา ถือเป็นกระทำที่รุนแรงเกินไปเป็นการปฏิเสธประชาชนหรือไม่ เพราะข้าราชการไม่ควรปฏิบัติกับประชาชนแบบนั้น
ด้าน นางกุลิสรา กล่าวว่า ช่างเสริมสวยเป็นอาชีพที่ได้รับผลกระทบโดยตรงยิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกสั่งปิดก่อนจังหวัดอื่นเมื่อปิดทันที ทำให้ไม่มีรายได้ ที่ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาก็ได้เพียง 10-20% แต่ส่วนใหญ่จะถูกปฏิเสธถึงสองรอบ โดยระบุว่าเราเป็นเกษตรกร เป็นนักศึกษา วันนี้เรื่องกินยังพอทน แต่ค่าเช่าร้านเป็นปัญหา เพราะถูกให้ปิดกะทันหัน เราไม่ได้มีการเตรียมเงินไว้ล่วงหน้า การกินอยู่ยังพออยู่ได้ แต่เรื่องค่าเช่า ต้องจ่าย อย่างช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็มีสมาชิกสมาคมฯโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ แม้สมาคมฯจะตั้งโดยถูกต้อง มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่เราไม่มีมูลนิธิหรือเรี่ยไรเงินกันเก็บไว้เพื่อเป็นเงินเยียวยาในกรณีที่มีปัญหา ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ตรวจฯจะมีการประสานให้ผู้ให้เช่าร้านผ่อนปรนการเก็บค่าเช่าร้าน
ด้าน นายรักษเกชา กล่าวว่า จะเร่งนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะส่วนตัวก็ได้รับเรื่องร้องเรียน ประกอบกับการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวาน ผู้ตรวจฯก็ได้มีการปรารภในเรื่องที่ประชาชนเข้าไมถึงข้อมูล ไม่มีโทรศัพท์ในการที่จะลงทะเบียน ระบบผิดพลาดตรงไหน ซึ่งเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตรงกับปณิธานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ระบุว่าประชาชนต้องอยู่ได้ต้องได้รับการดูแล โดยที่ผ่านมา หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มีปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ หรือนโยบายทำงานที่บ้าน ผู้ตรวจฯก็ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนดังกล่าวและเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาต่อรัฐบาลพร้อมกับติดตามการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา