MGR online - กองปราบปราม ตามรวบแก๊งต้มตุ๋นศิษย์ “หลุยส์ตาเทพ” ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ตั้งกลุ่ม “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” หลอกเอาเงินชาวบ้าน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.,พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม,พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชัยบูรณ์ โคตะมา อายุ 51 ปี สามี นางกมลชนกสรณ์ กางทอง อายุ 48 ปี ภรรยา น.ส.กัณฑ์ภิดา กางทอง อายุ 29 ปี บุตรสาว ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นมิจฉาชีพทำการตั้งกลุ่ม “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” ขึ้นมาเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนมาเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกองค์กร ก่อนเตรียมเรี่ยไรระดมเงินทุนจากสมาชิกเหล่านี้ โดยอ้างว่านำเงินไปช่วยเหลือเกี่ยวกับงานการกุศลต่างๆ และในอนาคตกลุ่มดังกล่าวจะมีการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กลับสมาชิกเดือนละ 15,000-2,000,000 บาท ต่อสมาชิกตามลำดับตำแหน่ง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวกำลังจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.พ. นี้
ทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เห็นว่ารูปแบบและพฤติกาณ์ของกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายคล้ายกับการหลอกลวงประชาชน เพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐเข้าไปดูแลหรือควบคุม ไม่ทราบที่มาของเงินทุนสนับสนุน รวมถึงสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เคยพบหรือรู้จักกับแกนนำผู้ก่อตั้งแต่อย่างใด มีเพียงแค่การติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ และแอพพลิเคชั่นไลน์ ในชื่อไอดีว่า “ดี” และ “คุณแผ่นดิน” จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ที่ก่อตั้งกลุมดังกล่าวคือ นายกำจรเกียรติ (สงวนนามสกุล) ลูกศิษย์ของน้าหลุยส์ตาเทพ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงที่เคยถูกทางกองปราบจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ และนายยุทธยา (สงวนนามสกุล) อดีตเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองทัพบก จึงได้แกะรอยสืบหาเบาะแสจนทราบว่าทั้งสองคนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบจนพบบุคคลทั้งสอง พร้อมกับผู้ต้องหา 3 รายนี้ คือนายชัยบูรณ์ นางกมลชนกสรณ์ และน.ส.กัณฑ์ภิดา พักอาศัยรวมอยู่ในห้องเดียวกันอีกด้วย จึงได้นำตัวมาซักถามจนทั้งหมดยอมรับว่าได้วางแผนที่จะกระทำความผิดจริง โดยใช้รูปแบบวิธีการเดียวกันกับน้าหลุยส์ตาเทพ มิจฉาชีพต้มตุ๋นหลอกลวงที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายแสดงตัวหรือแจ้งความเอาผิดกับทั้ง 5 คนนี้ จึงทำให้ยังไม่สามารถเอาผิดกับบุคคลทั้งหมดนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติบุคคลทั้ง 5 รายนี้ พบว่านายชัยบูรณ์ นางกมลชนกสรณ์ และน.ส.กัณฑ์ภิดา ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีหมายจับในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในพื้นที่ สภ.สว่าง จ.สกลนคร ติดตัวอยู่ จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในคดีค้างเก่าแทน ถึงแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่สามารถเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาได้ แต่ด้วยเพราะพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องหยุดไว้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จากนี้จะสืบสวนต่อว่าผู้ที่เป็นสมาชิกกลุ่มดังกล่าวในแต่ละระดับได้กระทำความผิดใดบ้าง และหากประชาชนได้รับความเสียหายจากจากการกระทำในลักษณะนี้ ให้มาแจ้งความได้ที่กองปราบปรา
