ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เมื่อทำดีได้คดี “อัจฉริยะ” ลุยเอาคืน “จุรินทร์” ปล่อยข่าวมีสต๊อกหน้ากาก 200 ล้านชิ้น
ไม่กี่วันก่อนหลังถูก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รมว.พาณิชย์แจ้งความ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดใจกับลูกเพจกรณี “ร่วมด้วยช่วยแฉหน้ากากอนามัย” ทำตัวเป็นพลเมืองดี หรือพยานประเทศนี้ ไม่มีอะไรการันตีความปลอดภัย
“ทำดี คือ ได้คดี”
ประกาศว่า หมด “โควิด-19” จะปฏิบัติการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันในเชิงรุก เชื่อมั่นทั้งประเทศไม่มีใครรู้ถึงขบวนการโกงกินเท่าตัวเอง และจะประสานสมาชิกทั่วประเทศนับล้านรณรงค์ขับไล่ “รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์” พร้อมจะแฉขบวนการหน้ากากอนามัยครั้งใหญ่
ผ่าง!! มาถึงล่าสุด “อัจฉริยะ” ก็พิสูจน์ว่า ไม่ได้มาเล่นๆ เดินขึ้น กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พร้อม “เดชา กิตติวิทยานันท์” ทนายความ ในวันสงกรานต์ แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาญา มาตรา 157
งานนี้ “อัจฉริยะ” ร่ายยาวงัด “ไทม์ไลน์” ว่ากันตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ที่ “จุรินทร์” ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวเองว่า มี 10 บริษัทสามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้จำนวน 200 ล้านชิ้น กำลังผลิต 1 เดือน กว่า 100 ล้านชิ้น ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและมั่นใจว่าสินค้าเพียงพอ
จากนั้นก็รู้กันว่า หน้ากากอนามัยกลับขาดแคลน ประขาชนหาซื้อไม่ได้ บุคลากรทางการแพทย์ไม่มีสวมใส่ กระทั่งวันที่ 30 มี.ค. รมว.พาณิชย์ กลับมาบอกว่าสต็อก 200 ล้านชิ้น เป็นเพียงวัตถุดิบ
เมื่อเป็นเช่นนี้ “อัจฉริยะ” จึงมองว่าเกิดความเสียหายกระทบต่อประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้มีหลายคนติดไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก เพราะ “จุรินทร์” มีตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ต้องได้รับรายงานข้อมูลจากหน่วยงานเกี่ยวข้องอยู่แล้ว และการพูดว่ามีหน้ากากอนามัยเพียงพอจึงเกิดความน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายมายอมรับว่าเป็นเพียงวัตถุดิบ
เรียกว่า สังคมงงเป็นไก่ตาแตกโอละพ่อ!!ชนิดกลับลำ 360 องศาของ “รมว.พาณิชย์”
อันว่า “สต๊อก 200 ล้านชิ้น” ก็ยังตั้งข้อสังเกตได้อีกว่า “จุรินทร์” พูดคล้ายกับ “เสี่ยบอย” ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ไลฟ์สดโอ้อวดว่า มีสต็อกหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น
เพราะ “เสี่ยบอย” นี้เองจึงเป็นที่มาของการที่ เพจสายดาร์ก “แหม่มโพธิ์ดำ” จับมาฟ้องสังคมออกสื่อให้ช่วยกันสืบหาขบวนการกักตุน หากินกับความยากลำบากของประชาชน หาซื้อไม่ได้ แต่กลับมีขายในสื่อออนไลน์หรือตลาดมืด
จากคดีเสี่ยบอยสืบกันไปสืบกันมา ปรากฏหลักฐาน กระทรวงพาณิชย์ เองก็ยอมรับบริหารหน้ากากอนามัยผิดพลาด อธิบดีกรมการค้าภายในถูกปลด แทนที่ “จุรินทร์” จะแสดงสปิริตลาออกจาก รมว.พาณิชย์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือดำเนินการจริงจังเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมซึ่งสนับสนุนว่าสินค้ามีอยู่จริงกลับไล่บี้เอาผิด คนที่เปิดโปงด้วยเจตนาดี
“แหม่มโพธิ์ดำ” ก็โดนตั้งข้อกล่าวหา โทษฐานแชร์คลิปเสี่ยบอย ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ งานนี้ตำรวจถูกสวดยับ จนต้องออกมาอ้อมแอ้มว่า เมื่อคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษก็ต้องดำเนินคดี
และแน่นอนเพจของ “อัจฉริยะ” ที่จัดหนักดราม่าหน้ากากอนามัยหายไปไหนก็ถูก “มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ กรรมการบริการพรรคประชาธิปัตย์ จนมาถึง “จุรินทร์” แจ้งความเอาผิด
“แหม่มโพธิ์ดำ” สเตตัสตอนนี้ก็ต้องบอกว่า คือ ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานโดยที่ตำรวจยังไม่ชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก
ในวงการตำรวจเองโดยเฉพาะฝ่ายสืบสวนก็ยอมรับ กรณีนี้ “แหม่มโพธิ์ดำ” มีเจตนาดี น่าชื่นชมที่ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ส่วน “อัจจริยะ” เป็นที่รู้จักในเรื่องการเปิดโปงเรื่องทุจริต กัดไม่ปล่อยที่ผ่านมาส่วนตัวก็ถูกฟ้องนับร้อยคดี “ทนายเดชา” ที่รู้จักกับอัจฉริยะมานาน พูดถึงว่า หาก “อัจฉริยะ” ใส่ร้ายคนอื่นคงติดคุกไปแล้ว ที่ผ่านมาก็พบว่าตรวจสอบมาตลอดหลายเรื่องมองว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง
ทำดี=ได้คดี ประเทศนี้เป็นอะไรไปแล้ว!
นี่คือสิ่งที่สังคมกำลังตั้งคำถาม.
** “หมอหนู-อนุทิน” รับมอบเวชภัณฑ์ล็อตใหญ่จากทางการจีน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ไทยอันทรงคุณค่า
“หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หายหน้าจากสื่อไปพักใหญ่ โดยหลังมีกรณีสื่อสารเรื่อง “หวด” พลาดจนเกิดตีความใน “คำพูด” ไปกันใหญ่
จนเจ้าตัวต้องขอเว้นระยะห่าง social distancing กับ นักข่าว เพราะยังหวั่นหวาดตัวเองที่ “สื่อสารไม่เก่ง”
วันปีใหม่ไทย ฤกษ์งามนามดี หมอหนู กลับมาพร้อมเรื่องดีๆ ด้วยการเป็นข่าว รับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์จาก “หยางซิน” อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ล็อตใหญ่
ประกอบไปด้วย หน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้น หน้ากาก N95 20,000 ชิ้น และชุด PPE 2,500 ชุด
“อนุทิน” บอกว่า การสนับสนุนจากทางการจีน เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างไทย กับจีน การสนับสนุนที่ทางการจีนส่งมาให้ สอดคล้องกับความต้องการของไทยอย่างยิ่ง เพราะเป็นเวชภัณฑ์ที่จะช่วยปกป้องแพทย์และพยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข ที่ทำงานอยู่ด่านหน้า ให้มีความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความมั่นใจในการทำงาน การช่วยเหลือจากทางการจีน นับว่าเป็นของขวัญปีใหม่ไทยที่มีค่ายิ่ง
เบื้องหลังเรื่องนี้ “หมอหนู” เล่าว่า “หยางซิน” คือ ผู้ที่คอยเชื่อมประสานให้ทางการไทยและทางการจีนมาโดยตลอด ทุกครั้งที่หารือเรื่องต่างๆ จะได้รับการตอบสนองความต้องการอย่างรวดเร็วจาก “หยางซิน” ตัวอย่าง ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนนับแสนเม็ด ก็ล้วนผ่านการประสานของ “หยางซิน” ทำให้เรามียารักษาผู้ป่วยอย่างพอเพียง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ติดเชื้อภายในประเทศล่าสุดถือเป็นข่าวดีที่ตัวเลขลดลงมาต่อเนื่องมีเพียง 28 ราย
ถามว่า ตัวเลขที่ลดลงสามารถไว้วางใจได้หรือยัง? ได้มีคำตอบจาก ศบค.ว่า ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ รวมถึงยังไม่ใช่เวลาของการผ่อนคลายมาตรการลงไปได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นแสงสว่างเลยทีเดียว เพราะหากดูจากอัตราการรักษาหายกลับบ้านได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย
อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กันต่อไป