xs
xsm
sm
md
lg

เหล่าทัพส่อตัดงบดูงาน-สัมมนา ชะลอซื้อยุทโธปกรณ์ ช่วย ปชช.ช่วงโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้บัญชาการเหล่าทัพ (แฟ้มภาพ)
เหล่าทัพเตรียมทบทวนงบเพื่อนำไปช่วยสู้โควิด-19 ส่อยกเลิกงบดูงาน ตปท.- สัมมนา ชะลอจัดหายุทโธปกรณ์ คำนึงถึงความดำรงความพร้อมขั้นต่ำของกองทัพ

วันนี้ (8 เม.ย.) จากมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงต่างๆ พิจารณาตัดโอนงบประมาณเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด โดยกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ถูกจับตามองเรื่องการปรับลดงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธมาเพื่อนำมาสนับสนุนแผนงานช่วยประชาชน จากข้อมูลพบว่าในกรอบวงเงินงบประมาณ ปี 2563 กระทรวงกลาโหม ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2.3 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประจำ 70% และ งบลงทุน 30% ทั้งนี้ เหล่าทัพจะได้กลับไปทบทวนในภาพรวมทั้งหมด โดยไม่ให้กระทบในส่วนของงบประจำมากนัก ซึ่งงบประจำประกอบด้วย เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง การประชุม สัมมนา ดูงานต่างประเทศ แผนการฝึกศึกษาประจำปี ส่วนนี้อาจต้องมีการยกเลิกงบการดูงานต่างประเทศ การสัมมนาบางรายการ หรือปรับแผน-ลดขนาดการฝึกลง

ส่วนงบลงทุนที่ต้องทบทวน และอาจต้องชะลอ ได้แก่ โครงการจัดหายุทโธกรณ์ ที่หมายรวมถึงการซ่อมบำรุง และการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อให้เกิดความพร้อมใช้ โดยมีแผนจัดซื้อยานเกราะลำเลียงพล หรือ สไตรเกอร์ ล็อต 2 จำนวน 50 คัน วงเงิน 4,500 ล้านบาท แผนจัดซื้อปืนใหญ่ขนาด 155 มม. เพื่อทดแทนจของเก่า วงเงิน 2,000 ล้านบาท โครงการจัดซื้อปืนใหญ่ขนาด 105 มม. วงเงิน 900 ล้านบาท โครงการจัดซื้อเครื่องบินแบบใช้งานทั่วไปวงเงิน 1,350 ล้านบาท รวมถึงการแผนจัดซื้อรถถังวีที 4 ล็อตที่ 3 วงเงิน 1,600 ล้านบาท

ขณะที่กองทัพเรือ มีแผนจะจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 -3 จำนวน 2 ลำ ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงตั้งงบก่อสร้างที่จอดเรือไว้อีก 900 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณตั้งแต่ปี 2563-2569 ส่วนกองทัพอากาศ สมุดปกขาวของกองทัพอากาศ ระบุว่า ในงบปี 2563 ได้แก่ โครงการจัดหาเครื่องฝึกทดแทน 12 เครื่อง ผูกพันงบประมาณ 4 ปี (2563-2566) วงเงิน 5,195 ล้านบาท โครงการจัดหาเครื่องฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น T-50 (ระยะที่ 4) 2 เครื่องวงเงิน 2,450 เครื่อง วงเงิน 2,450 ล้านบาท (ผูกพันงบประมาณ 2563-2565) เป็นต้น

มีรายงานว่า กระทรวงกลาโหม ได้ให้เหล่าทัพพิจารณาความจำเป็นในแต่ละโครงการเอง โดยโครงการที่ตั้งต้นในปี 2563 และยังไม่ได้มีการอนุมัติโครงการก็ขอให้ดูข้อกฎหมาย และเจรจากับประเทศคู่สัญญา เพื่อขอชะลอโครงการออกไปก่อน ซึ่งประเทศทั่วโลกก็ประสบปัญหาเหมือนกันย่อมเข้าใจสถานะของกองทัพเราด้วย อีกทั้งต้องพิจารณาควบคู่กับการทำแผนงบประมาณปี 64 ที่ผ่านการพิจารณาไปแล้วว่า ควรจะไปบรรจุในงบปี 64 หรือไม่ รวมทั้งทำแผนสองหากสถานการณ์งบประมาณในปี 64 ยังไม่ดีขึ้น ก็ให้ชะลออกไปอีก โดยให้คำนึงถึงการดำรงความพร้อมขั้นต่ำของกองทัพเท่าที่ทำได้


กำลังโหลดความคิดเห็น