xs
xsm
sm
md
lg

ไวรัสขึ้นสมอง! “ท่านใหม่” จวก กล่าวหาปล่อยโควิด-19 ระบาด เพื่อออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “นคร” ชี้รัฐประหารเงียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ท่านใหม่” จวกแรง ไวรัสขึ้นสมอง! ทวีตกล่าวหารัฐบาลปล่อยโควิด-19 ระบาด เพื่อออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวังผลการเมือง ขณะ “นคร” ชี้เปรี้ยง นี่คือ “รัฐประหารเงียบ” ของ “บิ๊กตู่” ปิดปากฝ่ายตรงข้าม ท่ามกลางการบริหารประเทศล้มเหลว

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 มี.ค. 63) เฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล ของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความระบุว่า

“ใครบอกเชื้อไวรัส ไม่ขึ้นสมอง ดูไอ้หมอนี่ (ตามที่ผมแชร์) มันโดนเชื้อไวรัส โควิด 19 กินสมองเกือบหมด แถมตอนนี้มีไข้ขึ้นสูง เลยเพ้อเจ้อ อันตรายครับ พ่อแม่พี่น้อง ออกห่างนะครับ ให้ ศอฉ. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปจัดการให้ดีกว่า”

ทั้งนี้ โพสต์ที่ “ท่านใหม่” แชร์มานั้น เป็นของผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Pheerawat14 “รักประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการทุกรูปแบบ” ซึ่งโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 63 ระบุว่า

“เหมือนรัฐบาลจะตั้งใจปล่อยให้โควิด-19 ระบาดไปจนถึงจุดๆ หนึ่ง เพื่อให้ตัวเองมีความชอบธรรมที่จะนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาใช้ เพื่อควบคุมสถานการณ์แทรกซ้อนอื่นต่อเนื่อง นอกจากการควบคุมเรื่องโรคระบาด!!”

นอกจากนี้ ช่างบังเอิญ มีคนคิดคล้ายกับคนทวิตเตอร์ดังกล่าว นั่นคือ เฟซบุ๊ก Nakorn Machim ของ นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่โพสต์หัวข้อ “อย่าใช้วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด 19 เพื่อยึดอำนาจทำรัฐประหารเงียบ”

โดยระบุว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ คสช. สามารถยึดอำนาจ และสืบทอดอำนาจปกครองประเทศ เกือบ 6 ปีเต็ม ได้สร้างวิกฤตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างต่อเนื่อง มากมาย ทุกมิติ ได้สะสมความเครียดต่อสังคมมายาวนาน จนถึงช่วงปลายปี 62 ย่างเข้าต้นปี 63 กระแสความไม่พอใจ ต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ถึงจุดเดือด จากการบริหารประเทศที่ผิดพลาด ทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง การเมืองแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีการทุจริตคอร์รัปชันรุนแรง อาณาราษฎรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า นักเรียน นักศึกษาปัญญาชนฝ่ายประชาธิปไตยเริ่มรวมตัวประท้วงขับไล่รัฐบาล กระแสจุดติดและดังกระหึ่มหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ

ในขณะที่รัฐบาลถูกกดดัน ถูกประท้วง ถูกขับไล่ ด้วยความไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถบริหาร และกำลังเสื่อมทรุด จากวิกฤตโรคระบาดร้ายแรงเข้ามาและแพร่ระบาด

ภาพจากแฟ้ม
แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการป้องกัน ตั้งแต่แรก รัฐบาลเห็นแก่เงินมากกว่าชีวิตของประชาชน ปล่อยให้นักท่องเที่ยวจีน เกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาแต่เริ่มต้นเข้ามา โดยไม่มีมาตรการป้องกันเพียงพอ จนสถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาไปเกือบทั้งประเทศ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จึงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ่วงด้วยกฎหมายอีก 40 ฉบับ

การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แทบจะไม่มีใครต่อต้าน เพราะทุกคนทุกฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่เมื่อพิจารณาความสมเหตุสมผล เบื้องหน้า เบื้องหลัง เป้าหมาย และเจตนารมณ์อันแท้จริงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ่วงด้วยกฎหมายอีก 40 ฉบับ

แล้วการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้ ไม่ได้ประกาศเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเพียงอย่างเดียว แต่ในทางวิชาการรัฐศาสตร์ ถือว่าเป็นการยึดอำนาจ หรือ รัฐประหารเงียบ

เป็นการใช้โครงสร้างการบริหารประเทศรวมศูนย์ ยึดอำนาจประชาชน ยึดอำนาจคณะรัฐมนตรี ให้มาอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว แล้วให้รัฐมนตรีบางคนที่เป็นแกนนำการยึดอำนาจเดิม รวมทั้งปลัดกระทรวง และข้าราชการประจำ มาบริหารประเทศแทนคณะรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน

ในด้านรัฐสภาก็เช่นกัน ฝ่ายค้านพยายามเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและเรียกร้องให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อระดมความคิด ความรู้ ความสามารถ แนวทางแก้ปัญหาวิกฤตชาติ แต่รัฐบาล พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล กลับพยายามขัดขวางไม่ให้มีการเปิดประชุม ช่องทางรัฐสภาจึงไร้ความหมายและถูกปิดปากจากฝ่ายรัฐบาล

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลนี้ก็ถือโอกาสใช้วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นภาวะฉุกเฉินเพื่อสยบความเคลื่อนไหวทั้งหมดของนักเรียนนักศึกษาและฝ่ายประชาธิปไตย พร้อมกับรวบอำนาจมาไว้ในตัวเอง คล้ายกับรัฐบาลเผด็จการหลังยึดอำนาจเสร็จ ท่ามกลางความโกลาหลของประชาชน

จึงขอให้การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้ เป็นไปด้วยความซื่อตรงต่อประชาชน เพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และคืนความเป็นปกติให้กับสังคมโดยเร็ว อย่าใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ บนความเสียหาย เสียโอกาส บนวิกฤตของประชาชนและประเทศชาติเลย

สำหรับ นคร มาฉิม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 63 เพจเฟซบุ๊ก EasyYukhon เผยแพร่คลิปรายการ “ขยี้ข่าวทอล์ค” ของไบร์ททีวี ซึ่งมี นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมรายการ โดยมี นายยุคล วิเศษสังข์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

นายนคร ระบุถึงการสนทนากับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ท่านอยากจะกลับประเทศไทย ในสภาท่านหมดหวัง ในสภาทุกอย่างเป็นไปตามเกมที่ฝ่ายเผด็จการกำหนดไว้ทั้งหมด ในสภาคงไม่มีทางที่จะชนะได้ ท่านใช้คำนี้

“มีทางเดียวที่ท่านจะได้กลับบ้าน คือ ประชาชนเรียกร้องให้ท่านกลับมา และได้รับความเมตตาปรานีจากผู้มีบารมีของประเทศเท่านั้นแหละ” นายนคร กล่าว... (สยามรัฐออนไลน์)

คำว่า “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” ใช่ว่า รัฐบาลที่เผชิญวิกฤตเท่านั้นที่จะคิดค้นหาวิธีเสริมสร้างอะไรบางอย่างจากวิกฤตให้เป็นประโยชน์ได้ หากแต่ถ้าดูจากวิกฤตโคโรนา หรือ โควิด-19 ในขณะนี้ ฝ่ายค้าน หรือฝ่ายที่ต้องการโค่นอำนาจรัฐบาล ก็กำลังพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้อยู่เหมือนกัน

ต่อให้ประชาชนก่นด่าสาปแช่ง ว่า เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ทางการเมือง ไม่เลือกแม้ยามวิกฤตที่สังคมกำลังร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหา เป็นกำลังให้กันและกัน พร้อมกับการเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวมอย่างมากมาย ก็ไม่สนใจ อย่างนี้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น